'ตลาดนัดแก้หนี้' กทม. แก้ยอดหนี้กว่า 90 ล้านบาท จ่อลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ

'ตลาดนัดแก้หนี้' กทม. แก้ยอดหนี้กว่า 90 ล้านบาท จ่อลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ

“ตลาดนัดแก้หนี้" กทม. ประชาชนลงทะเบียน 9,342 ราย แก้ยอดหนี้กว่า 90 ล้านบาท เตรียมลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำช่วยคนจนเมือง

วันนี้ (18 ก.พ.67) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม "มหกรรมตลาดนัดแก้หนี้กรุงเทพมหานคร" ณ มูลนิธิพุทธรังษี วัดฝอกวงซัน เขตคลองสามวา 

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการจัดกิจกรรม "ตลาดนัดแก้หนี้" โดยใช้พื้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่เหมาะสมจัดกิจกรรมเพื่อสะดวกต่อการให้บริการประชาชน โดยเปิดให้ประชาชนที่เป็นหนี้ลงทะเบียนเพื่อให้ภาครัฐช่วยเหลือและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ กรุงเทพมหานครได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จึงได้จัดกิจกรรม "มหกรรมตลาดนัดแก้หนี้กรุงเทพมหานคร" ขึ้น โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินของรัฐ มาอํานวยความสะดวกให้คำปรึกษา ให้ข้อมูล ให้ความปลอดภัยลูกหนี้ พร้อมช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้ให้แก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ ได้พูดคุยและทำข้อตกลง เพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ถูกต้องและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 
 

"หัวใจสำคัญที่นายกรัฐมนตรีพูดถึง คือ หน่วยงานภาครัฐต้องมีพื้นที่ให้ลูกหนี้ เพื่อไม่ให้ลูกหนี้หมดหนทาง ซึ่งกทม.ขอเป็นเจ้าภาพในการรับฟังปัญหาและพร้อมจะช่วยเหลือปัญหานี้ โดยมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ จัดขึ้นที่คลองสามวาเนื่องจากเป็นเขตที่มีลูกหนี้ลงทะเบียนมาก และได้เชิญทุกเขตในกรุงเทพฯ มาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งจากสถิติพบว่าลูกหนี้นิยมลงทะเบียนผ่านออนไลน์กว่า 8,000 คน จากลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ดังนั้นในอนาคตจึงต้องพัฒนาการลงทะเบียนในระบบออนไลน์ให้มากขึ้น ส่วนวันนี้เป็นประกาศดำเนินการในระบบออฟไลน์ที่ทุกท่านจะได้รับข้อมูล คำปรึกษาด้านการเงิน การสร้างงาน สร้างอาชีพ การไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาทของลูกหนี้และเจ้าหนี้ และรับการบริการจากหน่วยเคลื่อนที่บริการประชาชนด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน นอกจากนี้กทม.ยังเปิดช่องทางช่วยเหลือด้วยสถานธนานุบาลที่ในเดือนหน้าจะมีการลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.01% หากยอดหนี้จำนำไม่เกิน 5,000 บาท และหากเกิน 5,000 บาทจะลดดอกเบี้ย 20% ซึ่งถือว่าถูกมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกในการร่วมแก้ปัญหาให้กับประชาชน" รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าว 

\'ตลาดนัดแก้หนี้\' กทม. แก้ยอดหนี้กว่า 90 ล้านบาท จ่อลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ

ผศ.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องที่ดีของวันนี้คือการที่ลูกหนี้ได้สัมผัสถึงการเข้าสู่หนี้ในระบบโดยมีหลากหลายธนาคารให้บริการ ซึ่งการพูดคุยเจรจากันอาจทำให้เปลี่ยนหนี้จากนอกระบบเข้าสู่ในระบบได้ พร้อมกันนี้จะมีช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการสร้างความเข้าใจในวิธีการเพื่อเข้าสู่หนี้ในระบบและการหารายได้มาแก้ปัญหา ซึ่งวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่กทม.ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบอย่างจริงจังต่อไป
 

ด้านปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การดำเนินการที่ผ่านมาลูกหนี้ได้พูดคุยกับเจ้าหนี้จนสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันภายใต้การไกล่เกลี่ยของสำนักงานเขต โดยสามารถดำเนินการปลดหนี้ไปได้แล้วหลายคู่กรณีด้วยการช่วยเหลือของสถาบันการเงินหลายแห่ง โดยงานในวันนี้จะจัดจนถึงเวลา 14:00 น. และนอกเหนือจากการมาดำเนินการเรื่องปลดหนี้แล้ว ประชาชนยังสามารถมาใช้บริการอื่นๆ จากหน่วยงานภาครัฐ ที่ร่วมกันนำมาให้บริการได้อีกด้วย ซึ่งกทม.จะจัดงานรูปแบบนี้เป็นระยะอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ต่อไป

ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยกำหนดให้มีการดำเนินงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเป็นรูปธรรมและผลักดันให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ทุกจังหวัด อำเภอ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ  โดยในส่วนของกรุงเทพมหานครให้ดำเนินการรับลงทะเบียนพร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้นอกระบบที่ประสงค์ขอรับการช่วยเหลือสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป 

จากนโยบายดังกล่าว กรุงเทพมหานครโดยสำนักพัฒนาสังคม ได้ดำเนินการประสานสำนักงานเขต 50 เขต ประชาสัมพันธ์วิธีการและขั้นตอนการลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ และรับลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ซึ่งประชาชนสามารถลงทะเบียนด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชั่น ไทยดี (ThaiD) หรือ เว็บไซต์กรมการปกครอง กรณีไม่สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ให้ติดต่อสำนักงานเขตเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงทะเบียนให้  โดยสำนักงานเขตจะมีขั้นตอนดำเนินการ ได้แก่ การตรวจสอบและจัดกลุ่มข้อมูล  การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท  การรายงานข้อมูลในระบบรายงานของกรมการปกครองภายในเวลา 15.00 น. ของทุกวันทำการ ผ่านทางเว็บไซต์กรมการปกครอง 

สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบของกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.66 ถึง วันที่ 17 ก.พ.67  มีจำนวนทั้งสิ้น 9,342 ราย เป็นผู้ที่ walk in เข้ามา จำนวน 1,344 ราย เป็นลูกหนี้ จำนวน 9,342 ราย เป็นเจ้าหนี้ จำนวน 8,261 ราย  รวมยอดหนี้ทั้งหมด จำนวน 909,755,360.12 บาท การจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย  การรับลงทะเบียนขอความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ  การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของลูกหนี้และเจ้าหนี้ การสร้างงานสร้างอาชีพ การจัดตลาดแรงงาน การฝึกอาชีพโดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร และกระทรวงแรงงาน การรับคำขอเพื่อพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และให้คำปรึกษาด้านการเงิน โดยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร การให้ความรู้ทางด้านกฎหมายโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล  

นอกจากนี้ยังมีบริการจากหน่วยงานกรุงเทพมหานคร อาทิ บริการทำบัตรประชาชน ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ได้แก่ เอกซเรย์ปอด  คัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจจอประสาทตา บริการทันตกรรม ตัดผม ตัดแต่งขนสุนัข ทำหมันสุนัขและแมว การจัดนิทรรศการศูนย์ส่งเสริมการบริหารเงินออมครอบครัวและการแก้ไขปัญหาหนี้สิน นิทรรศการกองทุนการออมแห่งชาติ นิทรรศการด้านการเกษตรและแจกจ่ายพันธุ์ไม้ รวมถึงกิจกรรมของโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร อาทิ นวดแผนไทย การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand ผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการอาหาร น้ำดื่ม สำหรับผู้ร่วมงาน 

กิจกรรมวันนี้มี พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผศ.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัยพ์สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสามวา นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา ผู้อำนวยการเขตจาก 50 เขต ผู้แทน กอ.รมน.กทม. (ฝ่ายทหาร) ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนธนาคารออมสิน ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อํานวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน