เพิ่มอำนาจให้แล้วล้มเหลว | บวร ปภัสราทร

เพิ่มอำนาจให้แล้วล้มเหลว | บวร ปภัสราทร

เมื่อก่อนมักพูดกันถึงการมอบอำนาจให้คนทำงานสามารถทำงานเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้แทนผู้บริหาร เชื่อว่ากระจายอำนาจไปแล้วผลิตภาพโดยรวมของงานน่าจะดีขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงสำหรับการงานของวันวาน ที่มีวิธีการทำงานคงเส้นคงวา

ความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่รับคุณค่าจากการงานนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ห้าปีสิบปีก็เหมือนเดิม 

การมอบอำนาจ หรือ Delegation จึงเป็นที่ชื่นชอบในวงการไม่สันทัดกับการเปลี่ยนแปลง การมอบให้ใครทำอะไรในส่วนใดของงานกระทำได้ง่ายและทำเหมือนเดิมได้ยาวนาน แม้เมื่อมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย การมอบอำนาจก็ยังไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก อำนาจที่มอบให้ทำงานในช่วงต่างๆ ของห่วงโซ่การงานก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น 

แต่วันนี้ความต้องการและความคาดหวังจากการงานที่ทำ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีความหลากหลายมากกว่าสมัยก่อนมาก อำนาจที่มอบให้ไปนั้น ไม่พอที่จะทำให้คนทำงานสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพื่อรองรับความต้องการและความคาดหวังที่หลากหลาย และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

การตัดสินใจยังกระทำได้อย่างจำกัดเฉพาะขั้นตอนที่ตนเองได้รับมอบอำนาจมา ผลิตภาพในงานที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงโดยตลอด จึงไม่เพิ่มขึ้นจากการมอบอำนาจที่เคยใช้ได้ผลกับงานดั้งเดิม

หลายวงการจึงกล่าวถึง การเพิ่มอำนาจ หรือ Empowerment ให้กับคนทำงาน เพิ่มเติมจากการมอบอำนาจที่กระทำกันมาแต่ดั้งเดิม มีการเพิ่มอำนาจให้กับคนทำงานจนกระทั่งการตัดสินใจในการจัดการในเรื่องที่ทำงาน กระทำได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากผู้บริหาร จะวางแผนงานอย่างไร จัดทัพจัดทีมอย่างไร กำกับและควบคุมอย่างไร ก็ว่าไปได้เลย หากทำแล้วการงานมีประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งเชื่อกันว่า การเพิ่มอำนาจให้คนทำงาน จะนำไปสู่ผลิตภาพการงานที่เพิ่มขึ้น เพราะทำงานโดยมีแรงบันดาลใจสูงขึ้น ทำงานอย่างมีความผูกพันกับความสำเร็จของงานนั้นเพิ่มมากขึ้น ถ้ามีการเพิ่มอำนาจอย่างจริงจัง ทำแล้วต้องการให้ได้ผล ไม่ใช่แค่ได้ทำ 

ถ้าเป็นแค่การมอบอำนาจให้ทำงานส่วนใดส่วนหนึ่งตามที่กำหนดไว้ แค่ได้ทำตามที่มอบมาให้ก็พอแล้ว ได้ทำแต่ไม่รู้ว่าได้ผลหรือไม่

แม้ว่าการเพิ่มอำนาจให้คนทำงานนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สมควรกระทำ แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคนที่การเพิ่มอำนาจจะทำให้ผลิตภาพสูงขึ้น การเพิ่มอำนาจมาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงต่อความสำเร็จของงาน หากไม่มีการประสานงานที่มีประสิทธิผลเพียงพอ การเพิ่มอำนาจอาจทำให้เกิดโกลาหล ทำงานกันไปตามที่ตนคิด ตนอยากทำ ต่างคนต่างทำ ไม่สามารถบูรณาการงานที่ทำเข้าด้วยกันได้ 

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ การเพิ่มอำนาจอาจทำให้เกิดไซโลของการงานที่ยิ่งทำให้ผลงานย่ำแย่ลงในภาพรวม แต่ดูดีสำหรับการงานในส่วนของแต่ละคน

ก่อนจะคิดเรื่องการเพิ่มอำนาจ ให้ดูก่อนว่าคนทำงานของเราเชื่อฝีมือกันและกันมากน้อยแค่ไหน ประสานการงานกันได้ดีแต่ไหน ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่เชื่อฝีมือกัน แต่ละฝ่ายยังต่อกันไม่ค่อยจะติด ควรจะหยุดอยู่แค่มอบอำนาจไปทำกันคนละส่วน ตามวิธีการที่ผู้บริหารกำหนดไว้อาจจะดีกว่า

ถ้าผู้บริหารยังกล้าๆ กลัวๆ กับการเพิ่มอำนาจให้คนทำงาน แล้วยังย้อนลงมาแทรกแซงการตัดสินใจในเรื่องที่เพิ่มอำนาจไปแล้วอยู่เป็นประจำ คนทำงานเองก็เลยไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรลงไปด้วยตนเอง แต่มักจะใช้หลักปลอดภัยไว้ก่อน คือทุกเรื่องโยนกลับให้ผู้บริหารได้ตัดสินใจ 

การเพิ่มอำนาจภายใต้ผู้บริหารกล้าๆ กลัวๆ ไม่มีโอกาสใดเลยที่จะทำให้ผลิตภาพดีขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ยังรวมศูนย์อยู่ที่ผู้บริหารเหมือนเดิม ถ้าผู้บริหารยังไม่เชื่อมือคนทำงานก็รวบอำนาจไปก่อนเถอะ

อำนาจที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบและบทบาทที่มากขึ้น คนทำงานต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบมากขึ้นกับอำนาจที่เพิ่มไปให้ รวมถึงต้องมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะจัดการงานนั้นได้ด้วยตนเอง ทำไปตามที่สั่ง เปรียบเทียบกับต้องคิดต้องวางแผน

ต้องกำกับก่อนทำ ต่างกันมากทีเดียวสำหรับคนทำงาน วางแผนยังไม่เก่งจัดทัพยังมั่วๆ จัดทีมยังไม่สมประกอบ กำกับยังไม่เป็น ควบคุมยังไม่ได้ เพิ่มอำนาจไปก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงต่อความสำเร็จของงาน

ถ้ายังติดอยู่กับวัฒนธรรมทำงานตามสั่ง จะทำอะไรก็รอฟังผู้บริหารก่อน การเพิ่มอำนาจคงไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา นอกจากได้ดูเป็นคนใหญ่คนโตกันมากขึ้นเท่านั้น