ผู้ประกาศช่อง 3 สูญกว่าล้าน ถูกแก๊งคอลฯหลอก ลุยจับสาวบัญชีม้า

ผู้ประกาศช่อง 3 สูญกว่าล้าน ถูกแก๊งคอลฯหลอก ลุยจับสาวบัญชีม้า

ล่าต่อ เหตุผู้ประกาศช่อง 3 สูญกว่าล้าน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแอบอ้างกรมที่ดิน ลุยจับสาวบัญชีม้าส่งข้ามชายแดน

กรณีจับผู้รวมบัญชีม้าส่งข้ามชายแดน แก๊งอ้างกรมที่ดิน หลอกผู้ประกาศข่าวสูญกว่าล้านบาท

สืบเนื่องจากตำรวจชุดจับกุม บก.สอท.1 ได้จับกุมเจ้าของบัญชีม้า 4 คน เป็นหนึ่งในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่อ้างตัวเป็นกรมที่ดิน หลอกผู้ประกาศข่าวช่อง 3 สูญเงินกว่าล้านบาทนั้น

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อจนทราบชื่อผู้รวบรวมบัญชีม้า โดยเป็นผู้จัดหา และนำบุคคลซึ่งขายบัญชีม้า ผ่านด่านชายแดนกัมพูชาเข้าไปยังที่ตั้งของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ เพื่อคอยสแกนใบหน้าโอนเงิน ครั้งละ 10 วัน เมื่อครบกำหนดจะส่งกลุ่มบัญชีม้ากลับเข้ามายังประเทศไทยพร้อมเงินค่าจ้าง 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้  พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับได้ เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงออนไลน์

ต่อมา วันที่ 16 ม.ค. 2567 เวลา 13.00 น. ชุดสืบสวนได้ติดตามตัวผู้ต้องหาจนกระทั่ง สามารถจับกุม น.ส.วรัญญาฯ ได้ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร กรุงเทพ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี

ในข้อหา ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน และร่วมกันกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน

และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด