ข้อคิดจาก ‘rizz’ คำแห่งปี 2023 | วรากรณ์ สามโกเศศ

ข้อคิดจาก ‘rizz’ คำแห่งปี 2023 | วรากรณ์ สามโกเศศ

เมื่อปลายปี 2566 Oxford University Press ผู้พิมพ์ Oxford English Dictionary ประกาศว่าได้เลือก “rizz” เป็น “คำแห่งปี” (Word of the Year) ของปี 2566 “rizz” หมายถึงอะไรและมีองค์ประกอบอย่างไรเพื่ออาจนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง

rizz” เป็นคำสั้น ๆ ของ “charisma” ซึ่งหมายถึงเสน่ห์ของบุคคล หรือคุณสมบัติพิเศษเฉพาะคนที่ทำให้คนอื่นชื่นชอบ หรือความสามารถในการดึงดูดใจมาเป็นคู่โรมานติกหรือคู่สัมพันธ์ทางเพศ “rizz” เป็นคำนาม แต่ก็สามารถใช้เป็นคำกิริยาได้โดยใช้คำว่า “rizz up” ซึ่งหมายถึงเพิ่มเสน่ห์เพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม หรือเพิ่มความสามารถในการสร้างเสน่ห์

สิ่งที่แปลกของคำนี้ก็คือ มันมาจากเสียงตรงกลางของคำว่า “charisma” (คา-ริส-มา) ซึ่งโดยปกติมักมาจากเสียงตอนต้นหรือท้ายมากกว่า เช่น “rhino” มาจาก “rhinoceros” (แรด) แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีดัง “fridge” มาจาก “refrigerator” (ตู้เย็น) และ “flu” มาจาก “influenza” (ไข้หวัดใหญ่)

“rizz” เป็นคำใหม่ที่เกิดจากการใช้ของกลุ่มวัยรุ่นเล่นเกมและชาวโซเซียลมีเดียของโลกตะวันตก ยูทูบเบอร์ชื่อดัง Kai Cenat เป็นคนทำให้เป็นที่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2564 และได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ โดยมีการใช้เพิ่มขึ้นถึง 15 เท่าในปีต่อ ๆ มา สมาชิกของกลุ่มผู้ตัดสินเลือกคำระบุว่า ความนิยมส่วนหนึ่งมาจากความสนุกและความง่ายในการออกเสียง มันสั้นกะทัดรัด และสะดวกในการใช้สำหรับคนรุ่นใหม่

“rizz” มิได้รับเลือกจากการจับฉลาก หากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของบริษัทผู้พิมพ์ดิกชันนารี พิจารณาการใช้ภาษาอังกฤษกว่า 22,000 ล้านคำในปีที่ผ่านมาและพบว่าคำนี้มีการใช้บ่อยมาก อีกทั้งมาจากการโหวตของประชาชนกว่า 30,000 คน

Ronald E. Riggio ผู้ศึกษาและวิจัยเรื่อง “rizz” หรือ “charisma” มากว่า 45 ปี พบว่ามันมิใช่สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นโดด ๆ หากมี 5 องค์ประกอบที่จะช่วยทำให้เกิด “rizz” ขึ้นในบุคคลหนึ่งดังต่อไปนี้ 

(1) การแสดงออกซึ่งอารมณ์ (Emotional Expressiveness) งานวิจัยพบว่า“ rizz ” เป็นเรื่องที่อยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล คนที่สามารถแสดงออกซึ่งอารมณ์อย่างเป็นธรรมชาติ มักได้รับการชื่นชอบจากคนอื่น ในการพบกันแต่เพียงครั้งแรก ๆ ดังตัวอย่างของเซลส์แมน นักพูด นักแสดง ฯลฯ ที่ประสบความสำเร็จ

การแสดงออกซึ่งอารมณ์อันเหมาะสมดังกล่าวนี้ มาจากส่วนผสมอย่างเหมาะเจาะของการแสดงออกทางสีหน้า แววตา โทนเสียงและอากัปกิริยา นอกจากนี้ยังสามารถบังคับและควบคุมให้คุณลักษณะเช่นนี้ ปรากฏออกมาอย่างเป็นธรรมชาติให้คนอื่นเห็น 

(2) คำพูดนั้นสำคัญ หากพิจารณาผู้นำที่มีเสนห์ (charismatic leaders) ซึ่งเป็นเป้าหมายของงานวิจัยเรื่องนี้จำนวนมากก็จะพบว่าล้วนมีความสามารถในการพูด รู้จักเลือกเรื่องที่เหมาะสมกับผู้ฟัง ด้วยเนื้อหาและการใช้คำพูดที่กลมกลืน ลื่นไหลมีจังหวะ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและน่าฟังโดยให้ความสนใจแก่ผู้ฟังอย่างเต็มที่

สำหรับ “rizz” ของคนธรรมดานั้น ลักษณะเดียวกันของการใช้คำพูดก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญและหากรวมการมีมารยาท ความสุภาพอ่อนโยน การให้เกียรติผู้ฟัง และการอ่อนน้อมถ่อมตัวในการพูดเข้าด้วยแล้ว ก็ช่วยให้บรรลุการมี “rizz” เป็นสมบัติอันล้ำค่าประจำตัว

(3) ทักษะในการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นและมีความสัมพันธ์ที่ดี (Empathy and Relationship Skills) “rizz” เกิดขึ้นได้จากการมีทักษะในสองเรื่องดังกล่าว เพราะ “rizz” เกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าปราศจากซึ่งความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 

(4) Savoir-faire คือ การรู้จักกาลเทศะ มีความมั่นใจตนเองในการเข้าสังคม มีความสุขุมและสง่างาม และมั่นใจในอิริยาบถเคลื่อนไหวร่างกาย นอกจากนี้ก็คือความสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ของสังคมได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างที่ช่วยให้นึกภาพออกคือ James Bond หรือ 007 ซึ่งใจเย็น เยือกเย็น ไม่หวาดหวั่น รักษาฟอร์มของตนเองไว้ได้เสมอและสามารถควบคุมทุกสถานการณ์ได้

(5) “rizz “อยู่ที่ใครมองเห็น งานวิจัยพบว่าเฉพาะคนที่ชื่นชอบผู้นำคนนั้น ๆ เท่านั้นที่ทำให้เห็น rizz ของเขา คนไม่ชอบมองอย่างไรก็มองไม่เห็น สำหรับคนธรรมดาก็หมายความว่าต้องทำอย่างไรให้คนชอบเราก่อน แล้วเขาจึงจะมองเห็นและ “รับเสน่ห์” ของเราได้

โดยสรุปคนที่สามารถแสดงออกซึ่งอารมณ์อันเป็นธรรมชาติได้ดี พูดจาได้เหมาะสม มีทักษะในเรื่องความสัมพันธ์ และ “เป็นฝาแฝด” กับ James Bond มีโอกาสที่จะเป็นคนมี “rizz” แต่ต้องไม่ลืมเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีก่อนเพื่อให้อิทธิพลจาก “rizz” สามารถแผ่รังสีไปถึงตัวคนอื่นได้

พื้นฐานของ “rizz” ก็คือความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนต่าง ๆ ถ้าคนไม่ชอบตั้งแต่แรกเสียแล้ว ไม่ว่าความจริงจะมี “rizz” มากเพียงใด ก็ยากที่จะมีอิทธิพลไปถึงเขาได้