'แร้งดำหิมาลัย' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร 'สบอ.12' รับดูแลต่อ

'แร้งดำหิมาลัย' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร 'สบอ.12' รับดูแลต่อ

สบอ.12 รับ "แร้งดำหิมาลัย" นกอพยพหายาก อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร มาดูแลและฟื้นฟูร่างกาย ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เผย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง บางปีพบ 1-2 ตัวเท่านั้น

จากกรณีอาสาสมัครกู้ภัยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.ลานกระบือ พบนกไม่ทราบชนิดขนาดใหญ่บินหลงมาอยู่บนถนนทางเข้าเทศบาล ต.ลานกระบือ จึงได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามเหตุรับแจ้ง เมื่อเดินทางมาถึงพบนกขนาดใหญ่ อยู่ในสภาพอ่อนแรง ไม่มีท่าทีดุร้าย สามารถจับได้ง่าย จึงนำกลับมาที่บ้าน และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับไปดูแล

ล่าสุดที่นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้ทำการรักษาในเบื้องต้นเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และตั้งชื่อเล่นว่า "น้องช้าง

จากการตรวจสอบพบเป็น "แร้งดำหิมาลัย" ซึ่งเป็นนกล่าเหยื่อจำพวกอีแร้งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ขนาดลำตัวยาวประมาณ 102-104 เซนติเมตร ความยาวปีกจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง 2.9 - 3 เมตร น้ำหนักหนักได้ถึง 7-12.5 กิโลกรัม ถือเป็นอีแร้งที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในทวีปเอเชีย

ตัวผู้และตัวมีลักษณะเหมือนกัน ทั่วตัวมีขนสีดำ ตรงบริเวณหัวถึงคอมีขนน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย บริเวณรอบ ๆ คอมีขนขึ้นฟูคล้ายพวงมาลัย นิ้วสีออกขาว ตัวที่ยังไม่โตเต็มวัยมีลำตัวด้านล่างสีน้ำตาลอ่อนกว่า

 

\'แร้งดำหิมาลัย\' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร \'สบอ.12\' รับดูแลต่อ

\'แร้งดำหิมาลัย\' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร \'สบอ.12\' รับดูแลต่อ

แร้งดำหิมาลัย ไม่ใช่นกประจำถิ่นของไทย นอกจากอพยพย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาวของแต่ละปีเท่านั้น ทั้งนี้มีการกระจายพันธุ์ในทวีปยุโรปจนถึงภูมิภาคไซบีเรีย, เอเชียกลาง, จีน, อินเดีย จะอพยพมาประเทศไทยช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ หายากและมีปริมาณน้อยมาก 

 

\'แร้งดำหิมาลัย\' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร \'สบอ.12\' รับดูแลต่อ

\'แร้งดำหิมาลัย\' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร \'สบอ.12\' รับดูแลต่อ

\'แร้งดำหิมาลัย\' อ่อนแรงบินตกที่ จ.กำแพงเพชร \'สบอ.12\' รับดูแลต่อ

 

ประเทศไทย แร้งดำหิมาลัย เป็นนกอพยพหายาก จะอพยพเข้ามาในฤดูหนาวบางปี จำนวน 1-2 ตัวเท่านั้น โดยแร้งจะร่อนมากับลมหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม มีรายงานพบที่จังหวัดเชียงใหม่ เพชรบุรี นครราชสีมา ระยองและจันทบุรี ซึ่ง "แร้งดำหิมาลัย" จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562

ทั้งนี้หากท่านใดพบเห็นแจ้งได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง