7 วันอันตรายปีใหม่ 2567 วันที่สาม บาดเจ็บ 416 ตาย 51 ราย

7 วันอันตรายปีใหม่ 2567 วันที่สาม บาดเจ็บ 416 ตาย 51 ราย

7 วันอันตรายปีใหม่ 2567 วันที่สาม บาดเจ็บ 416 ตาย 51 ราย สรุปยอด 3 วัน (29-31 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุ 1,150 ครั้ง บาดเจ็บ 1,151 คน และเสียชีวิตรวม 128 คน

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วง เทศกาลปีใหม่ 2567 ดังนี้

 7 วันอันตราย ปีใหม่ 2567 ประจำวันที่ 31 ธ.ค. 2566

  • เกิดอุบัติเหตุ 424 ครั้ง
  • ผู้บาดเจ็บ 416 คน
  • ผู้เสียชีวิต 51 ราย

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29-31 ธ.ค. 66)

  • เกิดอุบัติเหตุรวม 1,150 ครั้ง
  • ผู้บาดเจ็บ รวม 1,151 ราย
  • ผู้เสียชีวิต รวม 128 ราย
  • จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 22 จังหวัด
  • จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (44 ครั้ง)
  • จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (43 คน)
  • จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (8 ราย) 

ซึ่ง ศปถ. ได้กำชับดูแลกวดขันขับรถเร็ว -  ดื่มแล้วขับ เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2566 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • ขับรถเร็ว ร้อยละ 37.26
  • ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 32.78

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.91
  • ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 80.19
  • ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 37.03
  • ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.56

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01 – 01.00 น. ร้อยละ 8.02 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี ร้อยละ 21.20 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,780 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,670 คน

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • กาญจนบุรี (18 ครั้ง)

จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่

  • นครศรีธรรมราช (20 คน)

จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่

  • นครพนม (4 ราย) 
  • อุดรธานี (4 ราย) 

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (1 ม.ค. 67) ยังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ประชาชนบางส่วนยังคงเดินทางท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ ทำให้เส้นทางหลักและเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด มีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ. จึงได้ประสานจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องในเส้นทางสายต่าง ๆ

โดยเฉพาะเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ ซึ่งประชาชนใช้เป็นทางลัดออกสู่ถนนสายหลัก พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน นอกจากนี้ ให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนบริเวณสถานีขนส่ง ตรวจสอบพนักงานขับรถและสภาพรถโดยสารให้มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง 

นายไชยวัฒน์  จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ศปถ. ได้กำชับให้กวดขันพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วและดื่มแล้วขับบนเส้นทางสายหลักและสายรองในช่วงเวลามีสถิติอุบัติเหตุสูง และเน้นย้ำให้ด่านชุมชนปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยและไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนองและเสี่ยงอันตราย รวมถึงเตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุและรับส่งผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอฝากประชาชนให้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความไม่ประมาทและเพิ่มความระมัดระวังอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงดูแลสภาพร่างกายให้พร้อมขับขี่ และตรวจเช็คสภาพรถให้ปลอดภัยก่อนออกเดินทางกลับ เพื่อให้การเริ่มต้นปีใหม่ 2567 เป็นไปด้วยความสุขและความปลอดภัย 

ท้ายนี้ หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป