กทม. เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยเทศกาลปีใหม่ ย้ำแผนก่อนจัดงาน 1 สัปดาห์

วันนี้ (18 ธ.ค. 66) นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 26/2566 ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยในเรื่องการเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตราย (29 ธันวาคม 2566 - 4 มกราคม 2567) ในหลายด้านด้วยกัน เช่น การตรวจสอบกล้อง CCTV ให้ใช้งานได้ทุกตัว การเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์พยาบาลคอยช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 11 จุด เป็นต้น รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์กรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) ในช่วงปีใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์เฝ้าระวัง รวมทั้งรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย นอกจากนี้มีการห้ามจุดพลุ ประทัด โคมลอย 

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า พื้นที่จัดงานที่มีคนค่อนข้างมาก เช่น เอเชียทีค ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ สามย่านมิตรทาวน์ รวมถึงวัดอรุณ กรุงเทพมหานครได้มีการวางแผนร่วมกับผู้ที่จัดงานในการบริหารจัดการพื้นที่ การจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่ โดยให้ผู้ที่จะจัดงานได้จัดทำแผนการจัดงานและแผนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่จัดงานเสนอมาที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการสรุปผลแผนการจัดงานล่วงหน้าก่อนจัดงาน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ในการดูแลประชาชนนอกจากมีหน่วยแพทย์พยาบาลแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ด้านอื่น ๆ เตรียมพร้อมด้วย อีกทั้งให้สำนักงานเขตมีศูนย์ที่คอยประสานงานเหตุฉุกเฉินที่สำนักงานเขตด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 1 ม.ค. ที่ประชาชนจะกลับเข้ามาเพื่อเริ่มต้นทำงานในวันที่ 2 ม.ค. นั้น อาจต้องดูแลเรื่องการจราจรเพิ่มมากขึ้นด้วย และมีการเข้มงวดมาตรการสำหรับสถานบันเทิงเนื่องจากมีการอนุญาตให้เปิดได้จนถึงเวลา 06.00 น. ด้วย

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีการอนุญาตให้สถานบริการเปิดได้นานขึ้นถึงเวลา 04.00 น. และในวันส่งท้ายปีเปิดได้ถึงเวลา 06.00 น. นั้น อาจต้องดูแลในเรื่องของเสียงดัง รวมถึงสถานประกอบการที่เปิดได้ต้องมีใบอนุญาตและทำตามที่กำหนด ทั้งนี้ภายหลังจากมีการขยายเวลาเปิดสถานบริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีรายงานถึงความขัดแย้งเรื่องใหญ่ ซึ่งถ้าสถานประกอบการทำตามระเบียบหรือกฎหมายกำหนดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามในการฉลองอาจเกิดความมึนเมา ผู้ประกอบการอาจต้องหาแนวทางสร้างความปลอดภัยระมัดระวังไม่ให้ผู้ที่มึนเมาออกมาขับรถซึ่งเสี่ยงกับตัวเองและคนอื่นบนท้องถนน