อัปเดต 'หลวงพ่อพัฒน์' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

อัปเดต 'หลวงพ่อพัฒน์' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

เช็กอัปเดต พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม วัดห้วยด้วน มรณภาพ อายุ 101 ปี ประวัติพระเกจิ เคยมีข่าวดัง เงินหาย 63 ล้าน เปิดคำสั่งเสียไว้

ประกาศจากวัดธารทหาร หรือ วัดห้วยด้วน เรื่อง การมรณภาพของพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม ว่าเจ้าคุณพระราชมงคลวัชราจารย์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดธารทหาร ได้ถึงแก่มรณภาพ ในวันนี้ วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 01.35 น. ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยอาการอันสงบ

ผู้สื่อข่าวเนชั่นรายงานว่า นายวรพล ภู่สิงห์ ไวยากรณ์วัดห้วยด้วน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการ ได้เปิดกุฏิ หลวงพ่อพัฒน์ เพื่อเข้าไปตรวจสอบเงินที่หลวงพ่อพัฒน์ เก็บเอาไว้ เพื่อนำมาใช้ในการจัดงานศพ โดยพบว่ามีเงินสด ประมาณ 2 แสนบาท

โดยขณะนี้ทางคณะกรรมการได้เข้ามาดูเงินสด และเงินในบัญชีธนาคาร โดยยังไม่ได้เบิกเงินออกมา เพราะยังอยู่ในชื่อหลวงพ่อ 

ทั้งนี้ สำหรับเงินที่เข้ามานั้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเงินสดที่ญาติโยม ได้นำมาบริจาค และถวายให้กับหลวงพ่อ

สำหรับร่างของหลวงพ่อพัฒน์ จะมาถึงวัดในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 66 ประมาณ 14.00 น. โดยกองพิธีจะมีการจัดงานต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นจะตั้งศพหลวงพ่อ ประมาณ 15 วัน โดยจะสวดพระอภิธรรมทุกวัน ซึ่งร่างของหลวงพ่อ ได้สั่งเสียไว้ให้เก็บบรรจุร่างไว้ ไม่มีการประชุมเพลิงแต่อย่างใด

อายุหลวงพ่อพัฒน์

หลวงพ่อพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2465 สิริอายุ 101 ปี บวช 77 พรรษา เป็นพระเกจิอาจารย์ ชาวนครสวรรค์ สร้างวัตถุมงคล สร้างเหรียญต่าง ๆ เพื่อนำปัจจัยรายได้มาร่วมกันสร้างสาธารณสมบัติให้กับประชาชน

ประวัติหลวงพ่อพัฒน์

หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม บุตรนายพุฒ และนางแก้ว ก้อนจันเทศ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2489 ณ วัดสระทะเล โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงพ่อยอด) วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญฺญกาโม”

โดยท่านเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ และท่านยังได้เรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับหลวงพ่อชับ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ และท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสเป็นเวลา 6 ปี

หลังจากนั้นท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดสระทะเล แต่ต่อมาท่านก็ย้ายมาอยู่วัดธารทหาร (วัดห้วยด้วน) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน

  • ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธารทหาร ในปี พ.ศ. 2564
  • ได้รับพระราชทานพัดรองที่ระลึกงานบรมราชาภิเษกสมณศักดิ์ พ.ศ. 2505 เป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์ที่ “พระครูพัฒน์ ปุญฺญกาโม”
  • พ.ศ. 2526 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นตรี ที่ “พระครูนิวิฐปุญญากร”
  • พ.ศ. 2543 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
  • พ.ศ. 2545 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
  • พ.ศ. 2564 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระราชมงคลวัชราจารย์ ไพศาลศาสนกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

อัปเดต \'หลวงพ่อพัฒน์\' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ พระครูนิมิตศีลาภรณ์ (สม ฐิตสีโล) เจ้าคณะอำเภอหนองบัว, นายกิตติ ลิ้มศิริชัย นายอำเภอหนองบัว, พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.หนองบัว พร้อมด้วยผู้นำชุมชน,คณะกรรมการวัด ประชาชนบ้านห้วยด้วน (ข้อและภาพจาก เฟซบุ๊ก วัดธารทหาร-หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน)

อัปเดต \'หลวงพ่อพัฒน์\' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานศพพระราชมงคลวัชราจารย์(พัฒน์ ปุญญกาโม) เบื้องต้น เพื่อรอคณะทีมงานวัฒนธรรมจังหวัด เตรียมงานราชพิธี

อัปเดต \'หลวงพ่อพัฒน์\' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

 

กองงานราชพิธีเตรียมรับร่าง หลวงพ่อพัฒน์มรณภาพ
 
(24 พ.ย. 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่สำนักงาน พระราชมงคลวัชราจารย์ ได้แจ้งผ่านสื่อว่า พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ ปุญฺญกาโม) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) ได้มรณภาพ เมื่อเวลา 01.35 น. วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 101 ปี บวช 77 พรรษานั้น

สำหรับบรรยากาศที่วัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จ.นครสวรรค์ ขณะนี้บรรดาประชาชนที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมายังวัดห้วยด้วนจำนวนมากแล้ว เพื่อรอรับสังขารของหลวงปู่พัฒน์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป 

ล่าสุดพระครูนิมิตศีลาภรณ์ (สม ฐิตสีโล) เจ้าคณะอำเภอหนองบัว, นายกิตติ ลิ้มศิริชัย นายอำเภอหนองบัว, พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.หนองบัว พร้อมด้วยผู้นำชุมชน,คณะกรรมการวัด ประชาชนบ้านห้วยด้วน กำลังร่วมประชุมเตรียมความพร้อม จัดงานศพอย่างสมเกียรติให้หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม เบื้องต้นคณะวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ได้เตรียมงานราชพิธี สำหรับกำหนดพิธีการต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบต่อไป
 

เคยมีข่าวดัง เงินหาย 63 ล้าน

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดห้วยด้วน (ธารทหาร) ต.ธาทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ต.วิวัฒน์ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวถวายเงินคืนแด่พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ ปุญฺญากาโม) จำนวน 63,034,470 บาท (63 ล้านบาท) หลังจากตรวจสอบเสร็จสิ้น

จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง มีหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติติหน้าที่ของกลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน (ธารทหาร) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และคนใกล้ชิดพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญากาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน 

อัปเดต \'หลวงพ่อพัฒน์\' วัดห้วยด้วน มรณภาพ เปิดคำสั่งเสีย ประวัติและข่าวดัง

ต่อมาได้มีกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงพ่อพัฒน์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ว่ามีกลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน และคนใกล้ชิดซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดและมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มีพฤติกรรมน่าเชื่อว่าทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วนและมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูและสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี พร้อมขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินผู้ใกล้ชิดของหลวงพ่อพัฒน์

การลงพื้นที่ทำการสืบสวนสอบสวน พบว่าหลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ปฏิบัติติดี ปฏิบัติติชอบ มีความเมตตาสูง จนทำให้มีประชาชนและลูกศิษย์ เลื่อมใส ศรัทธา เคารพนับถือจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้มาขอให้หลวงพ่อพัฒน์ ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆและถวายเงินแด่หลวงพ่อพัฒน์ เป็นเงินปีละกว่าร้อยล้านบาท พลวงพ่อพัฒน์จะนำเงินที่ได้รับถวายใช้ในการทำนุบำรุงศาสนาและให้หน่วยงานที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ เพื่อสาธารณะประโยชน์ เช่น วัด โรงพยาบาล และโรงเรียนต่างๆ จำนวนมาก โดยไม่ได้นำเงินไปใช้ในทางส่วนตัว

และได้ทำการตรวจสอบกลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ คือ นายเสนาะ ,นางธัญญา และนางบุญเชิด ทั้ง 3 ราย ประกอบอาชีพเกษตรกร ไม่ได้ประกอบอาชีพที่มีรายได้สูง พบว่ามีการนำเงินไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง จำนวน 7 บัญชี รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท (หกสิบสามล้านสามหมื่นสี่พันสี่ร้อยเจ็ดสิบบาท) เชื่อว่าเป็นเงินของหลวงพ่อพัฒน์ จึงได้อายัติเงินในบัญชีดังกล่าวไว้ และเข้าตรวจสอบภายในวัดห้วยด้วน พร้อมได้ตรวจเอกสารและหลักฐานต่างๆ นำมาตรวจสอบ

 

อบถามหลวงพ่อพัฒน์ ได้ความว่า เงินที่ได้รับการถวาย หลวงพ่อพัฒน์ จะให้กลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดนำเงินไปฝากในบัญชีส่วนตัวเพื่อสะดวกในการเบิกเงินมาใช้ในการสร้างเจดีย์กลางน้ำและสาธารณะประโยชน์ จึงจำได้ว่ามอบเงินให้ไปฝากประมาณ 28 ล้านบาท เท่านั่น และเมื่อถึงกำหนดการจ่ายค่างวดการก่อสร้างเจดีย์กลางน้ำ หลวงพ่อพัฒน์ได้ให้นายเสนาะ ไปถอนเงินจำนวน 15 ล้านบาท เพื่อมาจ่ายให้กับผู้รับเหมา แต่นายเสนาะ ไม่ยอมถอนเงินมา จึงทำให้หลวงพ่อพัฒน์ ต้องหาเงินจากส่วนอื่นมาจ่ายค่าก่อสร้างเจดีย์กลางน้ำแทน

ไวยาวัจกรทั้ง 3 ราย รับว่าเงินจำนวน 63 ล้านบาท เป็นเงินของหลวงพ่อพัฒน์ และยินยอมทำบันทึกสมัครใจถอนเงินจำนวนดังกล่าวมาถวายคืนแด่หลวงพ่อพัฒน์ ส่วนเงินในบัญชีธนาคารของนายเสนาะ จำนวน 1 บัญชี เป็นเงิน 7.9 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้อายัติไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป