สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 66

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 66

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 66 ปริมาณน้ำใช้การ 39,808 ล้าน ลบ.ม. (69%) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำ ภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 66 โดย สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง(ฝั่งตะวันออก) ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ วันที่ 25–28 พ.ย. 66 ลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 23 พ.ย. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 3,848 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้

  • ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 64,009 ล้าน ลบ.ม. (78%)
  • ปริมาณน้ำใช้การ       39,808 ล้าน ลบ.ม. (69%)

เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 10 แห่ง

  • ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว
  • ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์
  • ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล และหนองปลาไหล

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง

  • ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา
  • ภาคกลาง : กระเสียว
  • ภาคตะวันออก : คลองสียัด 

โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1) วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด  2) ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่

พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ จ.ปัตตานี และ นราธิวาส

ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2566

เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 25 – 30 พ.ย. 66 ดังนี้

1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง กงหรา เขาชัยสน ตะโหมด บางแก้ว ปากพะยูน และป่าบอน) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร จะนะ ควนเนียง หาดใหญ่ เทพา นาทวี นาหม่อม บางกล่ำ รัตภูมิ และสะบ้าย้อย) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี กะพ้อ โคกโพธิ์ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส จะแนะ เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี) 

2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำเขื่อนบางลาง จ.ยะลา 

3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส

สทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำ 

กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. 66 โดยระดับน้ำทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 29 พ.ย. 66 ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ำ ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำอุปโภค-บริโภค และการใช้น้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ทั้งนี้ สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการระบายน้ำในพื้นที่อุทกภัย พร้อมแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบ โดยกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการสร้างคันดินป้องกันน้ำทะเลหนุนสูง พร้อมทั้งจัดเรียงกระสอบทรายป้องกันน้ำทะเลหนุนสูง ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน