มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ'ปลดหนี้'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน

มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ'ปลดหนี้'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน

'มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน'ร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ปั้นทีม“พี่เลี้ยงการเงิน” สอนทักษะปลดหนี้ครัวเรือน พร้อมๆ กับสอนแนวทางไม่ให้ยุ่งเกี่ยวการพนัน

ผลสำรวจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงปี 2563-2564 จนถึงปัจจุบัน ระบุว่าครัวเรือนไทย มีหนี้โดยเฉลี่ยกว่า 500,000 บาท / ครัวเรือน 80% เป็นหนี้ในระบบ เช่น กองทุนสวัสดิการชุมชน ธกส. และอื่น ๆ อีกเกือบ 20% เป็นหนี้นอกระบบซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก

ขณะที่ปัจจัยซ้ำเติมที่ก่อให้เกิดหนี้อย่างการเล่นพนันหรือเสี่ยงโชคก็มีปริมาณการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลสำรวจสถานการณ์การพนัน ในปี 2564 พบว่า คนไทย 32 ล้านคนหรือร้อยละ 60 เล่นพนัน

ส่วนใหญ่เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดิน และยังพบเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุเล่นพนันในสัดส่วนที่ใกล้เคียวกันราว ๆ 4 ล้านคนในแต่ละกลุ่ม

มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ\'ปลดหนี้\'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน

ที่สำคัญคือ การพนันออนไลน์ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว ผลที่ตามมาคือ 15% คนที่เล่นพนันหรือเกือบ 5 ล้านคนได้รับผลผลกระทบจากการพนัน ทั้งปัญหาหนี้สินและปัญหาด้านสุขภาพจากความเครียด 

ความรู้ด้านการบริหารการเงินและการสร้างภูมิรู้เท่าทันพนัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นสำหรับทุกชุมชน มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และเครือข่ายสร้างการเรียนรู้ชุมชน 9 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุบลราชธานี เลย น่าน พะเยา ลำปาง และพัทลุง ทดลองสร้างพื้นที่ต้นแบบสร้างการเรียนรู้ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติงานชุมชน เช่น ผู้แทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน อสม. กลุ่มออมทรัพย์ หรือกลุ่มสวัสดิการชุมชน ตัวแทนเยาวชน และภาคประชาสังคม รวมถึงนักวิชาการที่สนใจในแต่ละจังหวัด เพื่อจัดทำโครงการปฏิบัติการอบรมหลักสูตรพี่เลี้ยงการเงินและรู้ทันพนัน ขึ้น

มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ\'ปลดหนี้\'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน

รู้ให้ทันเรื่องเงินๆ ทองๆ

ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า “หลักสูตรที่นำมาใช้เป็นหลักสูตรแบบเข้มข้นที่ใช้เวลาเพียง 1 วัน จึงออกแบบกิจกรรมโดยนำเกมการเรียนรู้มาผสมผสานเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายจากการลงมือปฏิบัติจริง

โดยองค์ความรู้หลักที่นำมาใช้ออกแบบหลักสูตรมาจากสองหน่วยงาน หนึ่ง ความรู้เรื่องการปลดหนี้จากบริษัท เงินติดล้อ จำกัด มหาชน และสอง การใช้เกมเรียนรู้ ได้แนวคิดมาจากเกม “The Choice - ทางเลือกทางรอด” ของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ดูแลงานโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเพิ่มเติมองค์ความรู้เรื่องการรู้เท่าทันพนันที่มูลนิธิฯ นักวิชาการ และภาคีเครือข่ายได้วิจัยและพัฒนามาเข้าไปเป็นอีกส่วนหนึ่ง”

“ขณะนี้มีแนวโน้มว่าฝ่ายการเมืองชูแนวคิด Soft Power ผลักดันให้เกิดการพนันถูกกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ทั้งการผลักดันกาสิโนอันเป็นแหล่งพนันขนาดใหญ่ การขยายขนาดของการพนันพื้นบ้านต่าง ๆ

โดยอ้างว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งการเสนอให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่

มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ\'ปลดหนี้\'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน คงเป็นเรื่องที่ต้องเรียกร้องให้มีการศึกษาผลกระทบทางสังคมก่อน เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องเป็นการตัดสินใจร่วมของประชาชน ไม่ใช่การตัดสินใจโดยฝ่ายการเมืองเพียงฝ่ายเดียว

อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องอยู่กับสังคมที่มีการพนันอยู่แล้ว จึงควรมีการสร้างเสริมทักษะการรู้เท่าทันพนันให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งที่อาจก่อให้เกิดโทษภัยได้โดยไม่ถูกทำร้าย เป็นการสร้าง Soft Skill ให้แก่ประชาชน รองรับการมุ่งใช้ Soft Power ของฝ่ายนโยบาย แต่ต้องสร้างความพร้อมทางสังคมขึ้นมาก่อน” นายธนากรกล่าว

สร้างพี่เลี้ยงการเงินช่วยปลดหนี้

สุจิตรา ฝาสันเทียะ ผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน วิทยากรหลักของโครงการฯ กล่าวว่า “สาระสำคัญของการอบรมพี่เลี้ยงการเงินเน้นหลักที่ว่า การปลดหนี้เปรียบเหมือนการดูแลสุขภาพ เราจะรู้ว่าเรามีสุขภาพทางการเงินดีหรือไม่ดีอย่างไร

มรพ.ปั้นทีมพี่เลี้ยงการเงิน สอนทักษะ\'ปลดหนี้\'ครัวเรือน ป้องกันภัยพนัน เราต้องใช้เครื่องมือวัดสองตัวคือ หนึ่ง เราต้องฝึกหัดทำงบรายรับรายจ่ายประจำ เปรียบเสมือนการดูแลการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อจะรู้ว่าเราใช้ชีวิตอย่างมีรูรั่วทางการเงินที่จุดใด ใช้จ่ายเกินตัว บริโภคเกินกำลัง สร้างหนี้โดยไม่จำเป็นหรือไม่

สอง เราต้องทำงบสินทรัพย์และหนี้สินอย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อรู้ว่าเรามีความมั่งคั่งมั่นคงเพียงใด และเรามีภาระหนี้อะไร เป็นหนี้ประเภทใด เป็นหนี้ดีที่อาจก่อให้เกิดความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือเป็นหนี้ร้ายที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งทางการเงิน บั่นทอนสุขภาพทางการเงินของเราหรือไม่

ทุกคนควรมีความรู้ว่าหนี้แต่ละตัวถูกคิดดอกเบี้ยแบบไหน และเราควรต้องจัดการหนี้แต่ละแบบอย่างไร และต้องทำอย่างไรจึงจะปลดหนี้แต่ละตัวได้ ความรู้เรื่องนี้ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งรู้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงานยิ่งมีประโยชน์มาก"

วราวุฒิ หน่อคำ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การอบรมหลักสูตรนี้ เล่าว่า

“การอบรมเรื่องการบริหารจัดการเงิน และปลดหนี้ เป็นหลักสูตรการอบรมที่เป็นประโยชน์มาก นับว่าเป็นเรื่องจำเป็นในทุกครัวเรือนที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจ เป็นทักษะชีวิตอย่างหนึ่งที่ครอบครัวต้องทำได้ทำเป็นเกี่ยวกับการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

และที่สำคัญต้องหมั่นสังเกตการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ให้มีการใช้จ่ายที่เกินตัว การดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ หรือการเล่นพนัน ทั้งการซื้อหวยซื้อลอตเตอรี่ การบริโภคอื่น ๆ ที่เกินตัว ถ้าเลี่ยงได้ หรืองดได้ ก็สามารถลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรืออาจเกิดหนี้เพิ่มจากการพนัน”