แก้ปัญหาผู้ส่งออกสิ่งประประดิษฐ์จากไม้ ไฟเขียวไม่ต้องขออนุญาต ส่งขายตปท.

แก้ปัญหาผู้ส่งออกสิ่งประประดิษฐ์จากไม้ ไฟเขียวไม่ต้องขออนุญาต ส่งขายตปท.

“บิ๊กป๊อด” ไม่รอช้าแก้ปัญหาผู้ส่งออกสิ่งประประดิษฐ์จากไม้ ให้ไฟเขียวไม่ต้องขออนุญาต ส่งขายต่างประเทศได้ สอดคล้องนโยบายรัฐ ช่วยผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจสะดวกรวดเร็ว-ลดค่าใช้จ่าย

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทส.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 
ภายหลังการประชุม 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ รายงานความคืบหน้าของการดำเนินการปรับปรุง แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ รายงานสถานการณ์การป่าไม้ และรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บท พัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 

นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาและเห็นชอบเรื่องการปรับปรุงประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ไม้พะยูงเป็นสินค้าที่ต้องห้าม ให้ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิดเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต และให้สิ่งประดิษฐ์ของไม้และถ่านไม้ เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 ซึ่งภายหลังจากประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไประยะหนึ่ง พบว่ากระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการค้าไม้ประเภทสิ่งประดิษฐ์ เนื่องจาก จะต้องเพิ่มระยะเวลาและขั้นตอนในการส่งออกสิ่งประดิษฐ์ของไม้ ซึ่งเดิมไม่ได้มีข้อบังคับให้ขอหนังสือรับรองในการส่งออกสิ่งประดิษฐ์ไปนอกราชอาณาจักร สมาคมธุรกิจไม้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการ จึงได้มีหนังสือถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้พิจารณาหาแนวทางแก้ไข ให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินการส่งออกสิ่งประดิษฐ์ของไม้ได้สะดวกรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า ทส.โดยกรมป่าไม้ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าต่างประเทศ กรมศุลกากร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสมาคมธุรกิจไม้ สมาคมเยื่อและกระดาษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางที่จะดำเนินการแก้ไขกรณีดังกล่าว โดยเห็นควรให้มีการพิจารณาขอแก้ไขความในข้อ 6 ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ โดยให้ตัดสิ่งประดิษฐ์ไม้ออกจากสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองเพื่อการค้าหรือการส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ประกอบการปฏิบัติพิธีการศุลกากรการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร และหลังจากแก้ไขประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ หากผู้ประกอบการค้าไม้มีความประสงค์จะขอหนังสือรับรองเพื่อการค้าหรือส่งออกสินค้าไปนอกราชอาณาจักร ตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง สามารถยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการออกหนังสือรับรองได้ตามมาตรา 18/2 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484

“ในฐานะประธานการประชุมฯ ได้เห็นชอบ และมอบแนวทางการแก้ไขประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ตามที่ทส.เสนอ และมอบกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งมอบหมาย ทส.โดยกรมป่าไม้ กำหนดแนวทางปฏิบัติที่แสดงขั้นตอนและระยะเวลาในการออกหนังสือรับรองเพื่อการค้าหรือส่งออกสินค้าไม้ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ทส.ทั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้สะดวก รวดเร็วประหยัดเวลา นำเม็ดเงินเข้าประเทศ” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว