เจ้าของโรงงาน กระทุ่มแบน ร้อง กองปราบ เร่งคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ 4 ล้าน

เจ้าของโรงงาน กระทุ่มแบน ร้อง กองปราบ เร่งคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ 4 ล้าน

สามี-ภรรยา เจ้าของโรงงานเครื่องจักร กระทุ่มแบน สมุทรสาคร ร้องกองปราบ เร่งทำคดีถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ - เบี้ยวชำระหนี้ สูญเงิน 4 ล้าน โดนทนายชื่อดัง เชิดเงินจ้างว่าความ ซ้ำข่มขู่

เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่" พา นายประพันธ์ (สงวนนามสกุล) พร้อมนางสาคร (สงวนนามสกุล) ภรรยา เจ้าของโรงงานเครื่องจักรและเครื่องปรุงรสชาติ ใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดีถูกอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ 4 ล้านบาท หลังเคยเข้าแจ้งไว้ที่ สภ.กระทุ่มแบน

นายประพันธ์ กล่าวว่า ตนกับภรรยาทำธุรกิจรับซ่อมเครื่องจักร ก่อนจะขายโรงงานต่อให้กับ น.ส.กนกพร (สงวนนามสกุล) นายทุนรายใหม่ในราคา 35 ล้านบาท ซึ่งมีการจ่ายเงินแล้ว 33 ล้านบาท คงค้างอีก 2 ล้านบาท และอยู่ระหว่างโอนโรงงาน 

แต่ช่วงที่ตนกับภรรยาประกอบกิจการอยู่ มียอดค้างค่าวัตถุดิบกับผู้จัดหาสินค้า หรือ ซับพลายเออร์ ประมาณ 2 ล้านบาท จึงเจรจากับผู้ซื้อโรงงานต่อ ให้จ่ายเงินจำนวนนี้ใช้หนี้แทนตน เพื่อให้ครบ 35 ล้าน แต่ระหว่างนั้น ยังไม่ถึงรอบดีลที่จะต้องชำระหนี้

กระทั่งวันที่ 25 มกราคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ น.ส.กนกพร ได้เรียกให้ตนไปพบที่โรงงาน อ้างว่าให้มาซ่อมเครื่องจักรก่อนส่งมอบโรงงาน แต่พอไปถึง กลับถูก น.ส.กนกพรและกลุ่มซับพลายเออร์ ที่เป็นเจ้าหนี้ 7-8 คน รวมหัวกันพาไปกักขังไว้ในห้องทำงาน ก่อนข่มขู่เรียกเงินค่าวัตถุดิบที่ยังคงค้างอยู่อีก 2 ล้านบาท และบังคับให้จ่ายในวันนั้น พร้อมข่มขู่ไปถึงลูกสาวและครอบครัว

ตนจึงโทรศัพท์หานางสาคร (ภรรยา) ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาให้ที่โรงงาน ระหว่างนั้นนางสาครได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า สามีถูกขังที่โรงงาน แต่พอไปถึงนางสาครกลับถูกจับเข้าไปขังรวมกับตนด้านใน จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางมาถึง แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เพราะกลุ่มซัพพลายเออร์อ้างว่าถ้าไม่มีหมายค้นก็จะไม่ให้เข้าไปข้างใน สายตรวจจึงกลับไป

นางสาคร กล่าวว่า ในช่วงที่มีการเจรจาหา ตนและสามี ได้ทวงเงินค่าโรงงานจาก น.ส.กนกพร ที่ยังคงค้างอีก 2 ล้านบาท แต่กูถูก น.ส.กนกพร ปฏิเสธไม่ยอมจ่าย ทั้งยังโทรศัพท์หาอัยการคนหนึ่ง ใน จ.นครปฐม ถามว่ามีลูกปืนเหลือไหม ทำให้ตนและสามีรู้สึกหวาดกลัว จึงยอมจ่ายเงินใช้หนี้ให้กลุ่มซัพพลายเออร์ทั้งหมด จนได้รับการปล่อยตัว ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

หลังเกิดเรื่อง จึงว่าจ้างทนายความชื่อดัง อักษรย่อ ต. เป็นเงิน 1 แสนบาท เพื่อฟ้องร้องน.ส.กนกพร และพวก ในคดีอาญา จากการกักขังหน่วงเหนี่ยวและคดีแพ่ง จากหนี้สินส่วนที่เหลือ ของ น.ส.กนกพร  แต่ทนายความที่ว่าจ้าง กลับติดต่อไม่ได้ เงียบหายไป

 จึงไปแจ้งความที่ สภ.กระทุ่มแบน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ คดีก็ยังไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทั้งสอง พร้อมประสานไปยัง สภ.กระทุ่มแบน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงรายละเอียดทางคดีที่เกิดขึ้น ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป