ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง

ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง

ร้านโมจิ ของฝากขึ้นชื่อของนครสวรรค์ ยังตรึงราคา แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่หวั่นจะแบกรับต้นทุนไม่ไหว รอดูสถานการณ์ไปสักระยะก่อน หลังราคาน้ำตาลปรับสูงขึ้นอีก

วันนี้ (31 ต.ค. 66) หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) บอกว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลหลายแห่งได้มีการปรับราคาน้ำตาลทรายไปแล้ว 4-5 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ 19-20 บาทต่อ กิโลกรัม เป็น 23-24 บาทต่อ กิโลกรัม ขณะที่ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นไปเป็น 27-28 บาทต่อ กิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการผลิตขนมและอาหารที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นส่วนประกอบต่างเกิดความวิตกกังวลว่าหากราคาน้ำตาลทรายปรับสูงขึ้นอีกย่อมส่งผลกระทบกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง

นางวิลาวัณย์ จันทร์สุวรรณ ผู้ประกอบการผลิจและจำหน่ายขนมโมจิจันทร์สุวรรณ ขนมของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า การผลิตขนมโมจิของตนต้องใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งในแต่ละวันจะใช้น้ำตาลทรายจำนวน 3 กระสอบ น้ำหนักเกือบ 150 กิโลกรัม หรือเป็นเงินประมาณกว่า 4000 บาท แต่หลังจากมีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายอีกกิโลกรัมละ 4 บาท ก็สร้างความวิตกกังวลว่าการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายดังกล่าว อาจส่งผลกระทบกับการผลิตขนมโมจิ เนื่องจากต้องมีตุ้นที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้ราคาหน้าร้านขนมโมจิกล่องเล็ก 10 ชิ้น 60 บาท กล่องใหญ่ 20 ชิ้น 120 บาท ขนมเปี๊ยะหิมะชิ้นละ 10 บาท ขนมไดฟูกุ กล่องละ 110 บาท

ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง

แต่ในเบื้องต้นคงต้องรอดูสถานการณ์ราคาน้ำตาลไปสักระยะก่อนว่า จะขึ้นมากน้อยขนาดไหน หรือจะมีวัตถุดิบที่เกี่ยวกับความหวาน เช่น นมและผลิตภัณฑ์ตัวอื่นขึ้นราคาอีกหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ ตนเองต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปก่อนเนื่องจากหากขึ้นราคาก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภค

ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง ร้านโมจิ ตรึงราคาขาย แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หลังราคาน้ำตาลพุ่ง