รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

รรท.ผบช.สตม. ติดตามคดีชาวต่างชาติทำร้ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ขณะเข้าจับกุมตามหมายจับ สั่งล้อมคอกหวั่นเกิดเหตุซ้ำ ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต สนธิกำลังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติตามหมายจับศาลแขวงภูเก็ต ข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ” ซึ่งพักอาศัยอยู่ในวิลล่าหรูแห่งหนึ่ง บริเวณใกล้กับหาดสุรินทร์ หมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่ได้ถูกกลุ่มของผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต จำนวน 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ (27 ต.ค.66) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รรท.ผบช.สตม. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าและรับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานดังกล่าว และมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บด้วย โดยมีพ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต, ชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ตที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ โดยมี พ.ต.ท.หญิง รังสินันท์ จันทร์เพชร สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า ด้วยความห่วงใยผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาติดตามสถานการณ์ดังกล่าว และจากที่ได้รับรายงานก็ได้สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งอาญาและ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะต่างชาติที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดลักษณะที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ เนื่องจากมีพฤติกรรมก้าวร้าว และเป็นภัยต่อสังคม ดังนั้นจึงฝากเตือนไปยังชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมดังกล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติงานตามหน้าที่และระเบียบกฎหมาย ฉะนั้นการแสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ หรือไม่ถูกต้องหรือเป็นภัยต่อสังคมจะถุกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งเครัด

 

รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

 

“กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว จากการตรวจสอบ มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่แม้ว่าจะบาดเจ็บไม่มาก แต่เป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายขัดขืนการจับกุม และต่อสู้เจ้าพนักงาน เนื่องจากมีกำลังมากกว่า แต่โชคดีที่มีการประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และภาค 8 ส่งกำลังมาสนับสนุนจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย รวมถึงผู้ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.เข้าเมือง รวมประมาณ 8-9 คน ในจำนวนนี้มีชาวรัสเซีย 1 คน ส่วนคนไทยที่เกี่ยวข้องจะเป็นในส่วนของผู้เป็นเจ้าบ้าน” 

 

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกนั้น จะต้องมีการบูณราการ และได้บอกไปแล้วว่าการเข้าจับกุมคนร้ายตามหมายจับต่างๆ ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นใคร ฉะนั้นจะต้องมีการเอ็กซเรย์และตรวจสอบกำลังของเขาก่อนว่ามีมากน้อยเพียงใด สถานที่ที่จะเข้าไปดำเนินการเป็นอย่างไร ทางเข้า-ออกเป็นอย่างไร และจะต้องมีการจัดเตรียมกำลังที่เหนือกว่า จึงจะสามารถคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งได้มีการถอดบทเรียน 

 

รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

และได้เน้นย้ำกับชุดปฏิบัติว่า การทำงานครั้งต่อไปจะต้องรอบคอบกว่านี้ใน และได้เน้นย้ำไปกับ ผกก.ตม.ภูเก็ต ว่า การดำเนินการควบคุมเกี่ยวกับคนต่างด้าวในพื้นที่ต้องใช้ พ.ร.บ.เข้าเมืองทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งที่พัก หรือการตรวจสอบพฤติกรรมที่เข้าลักษณะต้องห้าม โดยเฉพาะลักษณะของมาเฟียจะต้องไม่มี ส่วนกรณีที่พบว่ามีอาวุธก็ต้องตรวจสอบด้วยว่ามาได้อย่างไร 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ (27 ต.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เชิงทะเล ได้เข้าไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อดำเนินการเก็บหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งการตรวจยึดรถหรูเพื่อทำการอายัดและทำการตรวจสอบที่มาด้วย 

 

รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

รรท.ผบช.สตม. สั่งล้อมคอกคดีต่างชาติทำร้ายจนท. ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด