งานที่จะต้องเปลี่ยนไปเพราะ AI | พสุ เดชะรินทร์

งานที่จะต้องเปลี่ยนไปเพราะ AI | พสุ เดชะรินทร์

ChatGPT กำลังจะครบรอบ 1 ปีของการเปิดตัวต่อสาธารณชน ซึ่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมาทำให้กระแส Generative AI เติบโตอย่างมาก

ในช่วงที่ ChatGPT ออกมาใหม่ๆ ข้อกังวลที่เกิดขึ้นเป็นประจำคือ อาชีพหรืองานที่จะหายไปอย่างมากมายเพราะ AI แต่เมื่อเวลาผ่านไปและมีความคุ้นเคยกับ Generative AI (Gen AI) ที่มากขึ้น ความกังวลข้างต้นก็เริ่มลดน้อยลง โดยเปลี่ยนจากความกังวลว่า Gen AI จะทำให้งานหายไปอย่างมาก กลายเป็นคนทำงานจะต้องเปลี่ยนวิถีในการทำงาน และอาชีพใหม่ที่จะเกิดเนื่องจาก Gen AI

เมื่อเดือน ก.ค. McKinsey Global Institute ได้ออกรายงานเรื่อง Generative AI and the Future of Work in America สรุปออกมาว่าในระยะยาวแล้ว AI จะไม่ได้ทำให้งานหายไปอย่างมากมายอย่างที่หวั่นเกรงกัน ในระยะสั้นอาจจะมีบางงานที่จะต้องหายไปบ้าง และในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก Gen AI นั้น การเพิ่มขึ้นของงานอาจจะไปด้วยระดับที่ช้าลงบ้าง ไม่รวดเร็วเหมือนที่คาดไว้

Gen AI จะทำให้วิธีการในการทำงานแบบเดิมต้องเปลี่ยนไป ช่วยยกระดับงานของพนักงานได้ จากอดีตทำงานที่มีค่าตอบแทนน้อย ก็สามารถขยับไปทำงานที่มีค่าตอบแทนสูงขึ้น

รายงานของ McKinsey คาดการณ์ว่าคนทำงาน 12 ล้านทั่วโลกจะเปลี่ยนอาชีพในปี 2573 ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ 25% เมื่อสองปีที่แล้ว ยิ่งวิชาชีพที่เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากในอดีตถึง 23% เนื่องจากธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยี ต้องการพนักงานที่สามารถช่วยนำ AI มาใช้ในงานได้

สำหรับงานที่อาจจะหายไปนั้นก็เป็นงานที่ Gen AI สามารถทดแทนได้ เช่น บริการลูกค้า หรือบริการทั่วไปในสำนักงาน ส่วนผู้ที่ยังอยู่ในงานเดิม ก็จะพบว่าลักษณะของงานนั้นเปลี่ยนไป

Gen AI ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Bard, Dall-E ก็จะช่วยให้คนทำงานได้ผลลัพธ์ที่เท่าเดิมด้วยเวลาที่น้อยลง 30%

ผลกระทบของ Gen AI ต่อการทำงานนั้นไม่ใช่การทำให้งานสูญหายไปอย่างที่หวั่นเกรง (อาจจะมีบ้างในบางลักษณะงาน) แต่จะช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พนักงานสามารถประหยัดเวลาได้ถึง 30% ถ้ารู้จักและสามารถนำ Gen AI มาใช้ในการทำงาน ส่วนเวลาที่ประหยัดได้นั้น ก็สามารถนำไปทำงานอย่างอื่นได้เพิ่มขึ้น

งานที่จะต้องเปลี่ยนไปเพราะ AI | พสุ เดชะรินทร์

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา The Wall Street Journal มีบทความเกี่ยวกับอาชีพใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นเนื่องจาก Gen AI อาทิ In-house Large Languare Model Developer ที่จะทำหน้าที่ในการพัฒนาโมเดลใหม่ๆ ให้ Gen AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กรเอง เพื่อให้สามารถนำ Gen AI มาใช้ภายในองค์กร เช่น สถาบันการเงินอาจจะสร้างโมเดลเพื่อเทรนด์ AI เพื่อใช้ในการวิเคราะห์งบการเงินและรายงานประจำปีของลูกค้า

อีกอาชีพคือ Reskiller ที่ทำหน้าที่ในการ Reskill พนักงาน Gen AI และการเปลี่ยนแปลงทำให้พนักงานต้องพัฒนาตนเองในลักษณะของการ Reskills/Upskills เลยทำให้เกิดวิชาชีพใหม่คือ Reskiller ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือพนักงานในการ Reskills/Upskills และยิ่ง Gen AI พัฒนาไปมากขึ้น คุณค่าหรือความสำคัญของผู้ที่เป็น Reskiller ก็จะยิ่งมากขึ้น

อีกอาชีพที่ได้รับการกล่าวขวัญกันมากในปัจจุบันคือ Prompt Engineer เนื่องจากการจะทำให้ Gen AI ให้คำตอบตามที่ต้องการได้ ก็จะต้องอาศัยการป้อนคำถามหรือคำสั่ง เพื่อให้ Gen AI สร้างคำตอบที่ต้องการ 

ผู้ที่จะทำหน้าที่ในการป้อนคำถามหรือคำสั่งนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีทักษะที่อยู่ระหว่างการเขียนโปรแกรม (รู้จักหลักของการเขียนคำสั่งที่ดี) กับด้านการบริหารจัดการ (รู้จักคำสั่งหรือคำถามที่จะใช้เพื่อให้ AI ให้คำตอบเพื่อนำไปใช้งานได้)

ไม่ว่า Gen AI จะทำให้งานบางงานสูญหายไปหรือมีงานใหม่เกิดขึ้น สุดท้ายคนทำงานทุกคนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และที่ผ่านมาก็มีการปรับตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง.