เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

สาวโปรดิวเซอร์ เมืองนนทบุรี เดือดจัดพายายไปหาหมอ เจอไล่ออกนอกห้องตรวจ ก่อนปะทะคารมเดือดเจอหมอท้าก็มาดิ อ้างทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณอยู่แล้ว

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกได้โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความว่า "จรรยาบรรณหายากมากในสมัยนี้ เดี๋ยวเล่าเพิ่มเติมในคอมเม้นน้า #หมอด่าคนไข้" โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี

วันที่ 16 ต.ค.66 เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.ลำดวน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี โปรดิวเซอร์รายการหนึ่ง และนางนก (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี มารดาของ น.ส.ลำดวนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยเหตุการณ์ในคลิปเกิดที่ รพ.แห่งหนึ่ง ในตลาดบางบัวทอง เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา หลัง น.ส.ลำดวน ได้พานางเล็ก (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี ผู้เป็นยายเดินทางหาหมอคลีนิกนอกเวลาที่โรงพยาบาลดังกล่าวตามที่หมอนัดในตอนเช้า ก่อนเกิดเหตุการณ์วิวาทะเดือดระหว่าง น.ส.ลำดวนกับหมอหญิงรายหนึ่งของโรงพยาบาล

น.ส.ลำดวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันดังกล่าว ตนได้พายายไปหาหมอคลีนิกนอกเวลาของโรงพยาบาล ตามนัด จากนั้นเมื่อไปถึงตนก็รับบัตรคิวแล้วพายายเข้าไปเจาะเลือดตามขั้นตอน แล้วนั่งรอหมอเรียกตัวยายเข้าไปพบในห้องตรวจ โดยที่ตนนั่งรออยู่หน้าห้อง จากนั้นต่อมายายได้เดินออกมาบอกกับตนว่า โรงพยาบาลทำประวัติคนไข้หาย จึงจ่ายยาให้ไม่ได้ ต้องนำเอกสารไปยื่นที่แผนกเภสัช ก่อนที่ต่อมายายจะเดินมาบอกอีกครั้งว่า ให้พากลับบ้านไปเอายาที่เหลืออยู่มาดู เพราะหมอจ่ายยาให้ไม่ถูก 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

ซึ่งทำให้ตนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมประวัติการรักษาคนไข้ถึงหาย หายไปได้อย่างไร ทำไม่โรงพยาบาลถึงเช็คประวัติการจ่ายยาให้กับยายไม่ได้และไม่มีคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม อ้างว่าประวัติคนไข้หายแล้วไล่กลับบ้านให้ไปเอายากลับมาดู ทำให้ตนก็เริ่มมีอารมณ์และรู้สึกไม่พอใจกับการบริการของโรงพยาบาลเพราะตนคิดว่าถ้าเป็นคนแก่ที่ไม่มีรถส่วนตัวหรือต้องนั่งรถประจำทางมาหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วมาถูกไล่กลับบ้านให้ไปเอายากลับมาให้ดูใหม่ จะต้องเสียเวลาขนาดไหนกับคนแก่ที่มีสภาพเจ็บป่วย

น.ส.ลำดวน กล่าวอีกว่า แม้จะรู้สึกหงุดหงิดใจกับการบริการของโรงพยาบาลและคำสั่งของหมอ แต่ตนก็พายายกลับบ้านไปเอายาที่บ้านของยายเพื่อเอากลับมาให้หมอผู้หญิงดู โดยที่ในรอบสองเมื่อแม่ของตนรู้ว่าตนกำลังอยู่ในอารมณ์โมโห แม่จึงตามตนกับยายไปที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ตนจึงนำเอาซองยาไปให้เภสัชดูจึงจ่ายยามาให้ได้ 3 ตัว ส่วนยาอีกตัวหนึ่งที่ยายได้กินหมดแล้วทิ้งซองยาไปก่อนหน้านี้แล้วแต่หาซองยาไม่เจอ ทางฝ่ายเภสัชก็ไม่จ่ายยาตัวนี้ให้ โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าว่าเป็นยาอะไร 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

จึงทำให้ตนยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นไปใหญ่ เพราะแม้จะกลับไปเอายาที่บ้านกลับมาให้ดูแล้ว สุดท้ายก็เกิดปัญหาได้ยาไม่ครบอยู่ดี ซึ่งปัญญาเกิดมาจากการทำประวัติรักษาของคนไข้หายไปจากระบบ ตนจึงต้องการคำอธิบายจากทางโรงพยาบาล ก็ไม่มีใครอธิบายได้ ได้แต่พูดคำว่าไม่รู้ ๆ ทำให้ยายต้องไปทำเอกสารใหม่เพื่อไปยื่นฝ่ายทะเบียนและรอพบหมออีกครั้ง

น.ส.ลำดวน เล่าอีกว่า จากนั้นยายได้เข้าไปพบกับหมอผู้หญิงตามเสียงในคลิป ซึ่งแสดงน้ำเสียงพูดกับยายของตนเหมือนไม่พอใจ ตนกับแม่ซึ่งนั่งรออยู่หน้าห้อง เมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเดินเข้าไปดูยาย จากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตามในคลิป โดยหมอหญิงคนดังกล่าวกระแทกน้ำเสียงบอกให้ยายเข้าใจว่ายาต้องมีกี่ตัว หมอจะจ่ายยามั่วไม่ได้เพราะหมอก็ไม่รู้ว่ายายกินยาตัวไหนมา ทั้งๆที่หมอก็สั่งเจาะเลือดยายตนตรวจไปแล้วแต่ทำไมถึงไม่รู้ว่ายายตนป่วยเป็นอะไร 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

ก่อนที่หมอจะบอกให้ยายตนกลับบ้านไปก่อนแล้วค่อยกลับมาเอายาในวันหลัง ทำให้แม่ของตนซึ่งยืนฟังอยู่ด้วย จึงถบอกกับหมอไปว่า ไม่มีใครว่างกลับมาเอายาได้ จากนั้นทางหมอหญิงถามด้วยน้ำเสียงแบบมีอารมณ์กับตนว่า เป็นอะไรกัน โกรธอะไรหมอหรือเปล่า ก่อนที่หมอจะกดกริ่งรัวๆ เรียกพยาบาลมาเชิญให้เอาพวกตนออกจากห้องตรวจ 

จากนั้นก็มีปากเสียงกันอย่างในคลิปแล้ว ก่อนที่หมอหญิงคนดังกล่าวจะลุกขึ้นแล้วพูดกับตนว่าก็มาดิ เพื่อพยายามยั่วยุให้ตนมีอารมณ์เข้าไปหาเรื่องเขา ตนยอมรับว่าในตอนนั้นโมโหสุดขีดเหมือนกัน แต่ก็พยายามควบคุมตัวเองให้ใจเย็นแล้ว เพราะตนเป็นห่วงว่าหากยายของตนไม่ได้รับยากลับไปเพราะหมออ้างว่าไม่รู้ว่ายาอะไร แล้วถ้ายายตนเจออาการหนักขึ้นมาแล้วตายไป ใครจะรับผิดชอบเอาชีวิตยายของตนที่มีอยู่คนเดียวคืนมาได้ 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

ที่ผ่านมาตนได้ยินเรื่องราวจากหลายคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลแห่งนี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บุคลากรที่นี่พูดจาไม่ดี ตนไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองในวันนั้น แถมหมอหญิงคนนั้น ยังพูดท้าทายกับตน เมื่อตนถามว่สอาชีพหมอควรมีจรรยาบรรณไหม แต่หมอหญิงกับตอบสวนตนมาว่า อาชีพไหนๆ ก็ไม่มีจรรยาบรรณกันทั้งนั้น 

ทำให้ตนรู้สึกอึ่งกับคำตอบของหมอหญิงคนดังกล่าว จนในที่สุดยายต้องไปหาหมออีกคนแทน จึงได้ยากลับมากินที่บ้านจนครบ รวมทั้งสมุดสุขภาพขอวคนชรามาเป็นครั้งแรก หลังจากเดินทางมาหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งนี้แล้วหลายครั้ง 

น.ส.ลำดวน กล่าวอีกว่า ตนมีความรู้สึกว่าหมอคนนี้ไม่มีวุฒิภาวะในความเป็นหมอ ไม่รู้จักการคุมอารมณ์ให้ดี รวมทั้งไม่มีจิตใจที่จะมีความเมตตาหรือเห็นอกเห็นใจกับผู้ป่วยที่เป็นหญิงสูงอายุเลย เหตุการณ์นี้ถ้าทางโรงพยาบาลมาอธิบายถึงสาเหตุว่าประวัติคนไข้ยังตรวจเช็กไม่ได้เพราะระบบมันล่มหรือขัดข้องยังไง ตนก็พร้อมที่จะเข้าใจฟังและไม่ติดใจ แต่ไม่ใช่หมอจะมาดูถูกต่อว่ายายของตนเพราะเห็นว่าเป็นคนแก่ตาสีตาสา หรือเห็นเป็นแค่คนจนที่มารักษาตามสิทธิ์ถึงถูกปฏิบัติแบบนี้เพราะไม่มีเงินไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชน 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

ตนจึงตัดสินใจนานมาก ว่าจะโพสต์เรื่องราวนี้เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ในสังคม เรื่องนี้ตนต้องการให้ทางหมอหญิงมาขอโทษขอขมากับยายของตนด้วย เพราะหลังเกิดเรื่องยายของตนก็เกิดความเครียด วิตกกังวลใจว่าหากยาหมดแล้วจะต้องกลับไปรับตรวจไปรับยาจะเจอกับหมอหญิงคนเดิมคนนี้อีกหรือไม่ อยากฝากไปถึงรัฐมนตรีหรือคนที่ดูแลในเรื่องนี้ ตนขอบคุณสำหรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค สิทธิคนชรา แต่ช่วยส่งพิจารณาหาคนหรือหมอที่มีจิตใจเมตตาส่งมาด้วยก็ดี อยากให้ปฏิบัติกับคนไข้เหมือนกับคนในครอบครัว

ทางด้านนางนก มารดาของ น.ส.ลำดวน กล่าวว่า หลังเริ่มมีปากเสียงกัน แล้วถูกทางหมอหญิงไล่ออกนอกห้อง ตนจึงถามหมอกลับไปว่าว่าที่ไล่คนไข้แล้วไม่มีใบนัดคืออะไร ไม่ต้องมากรือคนไข้หายดีแล้ว ก็ถูกหมอตอบกลับมาว่าไม่มีอารมณ์ ก่อนจะทำมือไล่ให้พวกตนออกไปจากห้อง 

เดือด พายายไปรพ. ไล่ออกห้องตรวจ ปะทะหมอท้าก็มาดิ ทุกอาชีพไม่มีจรรยาบรรณ

ตนพาแม่มาหาหมอทุก 2 เดือนแต่โรงพยาบาลทำประวัติคนไข้หาย แล้วหมอกลับมาโทษแม่ของตนว่าทิ้งซองไปทำไม ทำให้จัดยาไม่ได้ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดจากแม่ของตนเลย ตนอยากให้บุคลากรของโรงพยาบาลพูดจาดีๆกับคนไข้ด้วย ที่ผ่านมาได้ยินคนในบางบัวทองเกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โรงพยาบาลที่นี้พูดจาไม่ดีกับคนไข้ จนกระทั่งมาเจอกับหมอหญิงคนนี้ด้วยตัวเอง ตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก หมอไล่คนไข้อย่างไม่มีจรรยาบรรณ ใช้อารมณ์กับคนไข้ ผู้ป่วยสูงอายุ  เหมือนไม่มีพื้นฐานของความเป็นหมอ 

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวของหมอหญิงรายนี้อายุประมาณ 30 กว่าปี ประสบการณ์ยังน้อย จึงควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี ไม่เหมาะสมกับคนที่จะเป็นหมอเลย

ในเบื้องต้นหลังทางผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีแล้ว พบว่าทางจังหวัดทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น