กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อน จากประเทศเพื่อนบ้าน สกัดสาเหตุการเกิดไฟป่าที่เกิดจากการเลี้ยงในป่า

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายเกียรติศักดิ์ วังวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ โดยเมื่อวันที่ 13-14 ตุลาคม 2566 ได้กำลังเจ้าหน้าที่ทำการดักซุ่มสกัดการลักลอบนำโคกระบือ บริเวณเส้นทางลำลองทางเข้าบ้านห้วยส้านใน หมู่ 8 ตำบลห้วยผา หลังจากสืบทราบจากแหล่งข่าวทางลับว่า จะมีการลักลอบนำโค กระบือจากประเทศเพื่อนบ้าน กว่า 50 ตัว เคลื่อนย้ายผ่านโดยใช้เส้นทางลำลองในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ

กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

กระทั่งคืนวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 20.00 น. ได้พบรถบรรทุก 6 ล้อ ต้องสงสัย ปิดท้ายผ้าใบมิดชิดขับออกมาจากชายป่า จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบเพียงร่องรอยมูลสัตว์ท้ายรถบรรทุก ไม่พบโคกระบือแต่อย่างใด จากนั้นจึงนำกำลังเดินเท้าเข้าตรวจสอบบริเวณป่าด้านทิศเหนือบ้านห้วยส้านใน ห่างจากจุดดักซุ่มไปประมาณ 500 เมตร คณะเจ้าหน้าที่ได้พบฝูงกระบือถูกล่ามไว้ในพื้นที่ป่า ท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา อำเภอเมือง โดยคนเฝ้าอาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าไปได้ จากการตรวจสอบพบกระบือถูกล่ามเชือกไว้ จำนวน 20 ตัว จึงจัดกำลังเฝ้าไว้ไม่ให้เคลื่อนย้าย แล้วแจ้งประสานหน่วยปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบในวันรุ่งขึ้น

กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

ต่อมาในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์อำเภอปางมะผ้า และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันแม่ฮ่องสอนเข้าตรวจสอบกระบือ โดยมีผู้ใหญ่บ้านห้วยส้านใน และราษฎรร่วมตรวจสอบ โดยกระบือดังกล่าวมีนายทรงวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี รับว่าเป็นเจ้าของกระบือ โดยอ้างว่าให้บิดามารดาซึ่งเป็นราษฎรบ้านห้วยส้านในเลี้ยงไว้ในพื้นที่ป่า โดยผู้ใหญ่บ้านห้วยส้านใน ให้การยืนยันรับรอง เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จึงได้ตรวจสอบกระบือแล้วพบว่า กระบือทั้งหมดดังกล่าวเป็นชนิดพันธุ์เดียวกันกับที่ราษฎรเลี้ยงในประเทศไทย ไม่สามารถนำสืบได้ว่าลักลอบนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการติดเครื่องหมายที่ใบหูทุกตัว เพื่ออายัดนำไปกักโรคบริเวณคอกกักสัตว์ตามมาตรการควบคุมโรคระบาดของกรมปศุสัตว์

กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จึงสั่งการให้นำเคลื่อนย้ายกระบือทั้งหมดออกไปจากอุทยานแห่งชาติทันที พร้อมทั้งได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายทรงวุฒิฯ จำนวน 6,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ และฐานนำหรือปล่อยสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 20 และ 21 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการลักลอบ และประสานกับปศุสัตว์อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ในการจัดทำข้อมูลทะเบียนผู้เลี้ยงโค กระบือในพื้นที่ทุกราย เพื่อป้องกันการนำโค กระบือ มาแอบอ้างว่าเป็นสัตว์เลี้ยงในพื้นที่

กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีลักลอบนำเข้าโคกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นเป็นการปฏิบัติตามนโยบายของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายลกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าระวังการนำปศุสัตว์เข้ามาเลี้ยงภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาไฟป่า อันเนื่องมาจากการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่ไปแล้ว เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นการป้องกันและลดปัญหาการเกิดไฟป่า ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในทุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศไทย