ตร.เตรียมทำสำนวนชันสูตร หลังเหยื่อกราดยิงพารากอน ดับเพิ่มอีก 1 รวม 3 ศพ

ตร.เตรียมทำสำนวนชันสูตร หลังเหยื่อกราดยิงพารากอน ดับเพิ่มอีก 1 รวม 3 ศพ

ผบก.น.6 เตรียมสั่งทำสำนวนชันสูตรเพิ่ม หลัง “หนุงหนิง” เหยื่อกราดยิงพารากอน เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวม 3 ศพ ยันการดำเนินคดีไม่เปลี่ยนแปลง เหตุพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นฯ” ไว้เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังผู้ใช้บัญชี X ชื่อ songdoubles ได้แจ้งว่า “หนุงหนิง” หรือ น.ส.เพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น

 

ล่าสุด พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า ในส่วนของการดำเนินคดี จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการแจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ" ไว้แล้วเพียงเพิ่มเติมในส่วนของสำนวนการสอบสวนจากผู้บาดเจ็บ เป็นผู้เสียชีวิต โดยส่งสำนวนการชันสูตรพลิกศพ เข้าไปเท่านั้น

ความคืบหน้าการขยายผลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายและดัดแปลง “แบลงก์ กัน” ให้กับเด็กอายุ 14 ปี นำไปใช้ก่อเหตุในศูนย์การค้า สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 จนสามารถสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนต่างๆ ทั้งหมด 2 ล็อต ที่เตรียมขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งตำรวจ สน.ยานนาวา เพิ่งควบคุมผู้ต้องหา 3 ราย ส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2566 สายที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ยานนาวา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาล็อตที่ 2 อีกจำนวน 4 ราย ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง หลังทยอยควบคุมตัวมาดำเนินคดี ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย

นายภัสสรกรณ์ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่ส่งกระสุนปืนให้เด็กอายุ 14 ปี ให้การปฏิเสธ โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

น.ส.สุธิดา (สงวนนามสกุล)ทำหน้าที่รับโอนเงินค่ากระสุนปืน ให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าสามีได้นำบัญชีไปใช้รับโอนเงิน

นายธนาวุฒิ (สงวนนามสกุล) สามีของ น.ส.สุธิดา ทำหน้าที่เป็นคนกลางโพสต์ขายกระสุนปืนในกลุ่มซื้อขายอาวุธปืน โดยได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่น ให้การรับสารภาพ

นายวุฒิพงษ์ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่รับโอนเงินค่ากระสุนปืน ให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธปืน โดยรู้จักกับนายธนาวุฒิ จึงไปรับจ้างเปิดบัญชีให้ โดยขณะผู้ต้องหาทั้ง 4 รายถูกพาตัวไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อเดินทางไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินก้มหน้า ไม่พูดอะไร และไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายธนาวุฒิ และน.ส.สุธิดา ค่อนข้างเครียดเพราะเป็นห่วงลูกวัย 5 ขวบ และ 3 ขวบว่าจะไม่มีคนดูแล

ขณะที่ พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เผยถึงการควบคุมในครั้งนี้ว่า พนักงานสอบสวนได้คัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง อยู่ในความสนใจของสังคม และกลุ่มผู้ต้องหามีหลายคน จึงเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐาน

ส่วนการขยายผลหลังจากนี้ ยังคงเป็นการดำเนินงานของชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ สืบนครบาล แต่หากต้องมีการประสานเรื่องพยาน หลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ก็จะให้ความร่วมมือในการดำเนินการ รวมถึงการไปขออนุมัติออกหมายจับและดำเนินคดี