หนุ่มโรงงาน ลาบวชหน้าไฟถูกไล่ออก ไม่ทำงานบริษัทเดิม จบจ่ายชดเชย

หนุ่มโรงงาน ลาบวชหน้าไฟถูกไล่ออก ไม่ทำงานบริษัทเดิม จบจ่ายชดเชย

คืบหน้า หนุ่มโรงงานลาบวชหน้าไฟงานศพยาย ถูกนายจ้างไล่ออก ล่าสุดตัวแทนโรงงานเข้าเจรจาให้เข้าทำงานเหมือนเดิม แต่หนุ่มลูกจ้างปฏิเสธ ทางโรงงานจึงจ่ายเงินชดเชยให้ จบกันด้วยดี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ส่งข้อความผ่านไปทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงหัวหน้างานเพื่อขอลางานไปบวชหน้าไฟให้กับยายที่เสียชีวิตกะทันหัน เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งหัวหน้างานตอบกลับมาว่า “ตามสบาย” ทำให้พนักงานคนดังกล่าวเข้าใจว่าหัวหน้างานรับทราบและอนุญาตให้ลางานแล้ว 

ภายหลังปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งไล่ออกจากงาน ทำให้พนักงานคนดังกล่าวได้นำข้อความสนทนา และเล่าเรื่องราวโพสต์ลงในโลกโซเชี่ยล กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้าง

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตรวจแรงงาน ของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อมูลกับนายจ้าง ซึ่งพบว่าทางบริษัทซัพคอนแทรคมีการส่งข้อความไปบอกเลิกจ้างจริง โดยที่ทางโรงงานไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ และได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าทางโรงงานพร้อมที่จะรับพนักงานคนดังกล่าวเข้าทำงานตามปกติ แต่ถ้าไม่ประสงค์เข้าทำงานต่อ ทางบริษัทซัพคอนแทรคก็ยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชย 

ประกอบด้วย เงินค่าจ้าง เงินค่าล่วงเวลา เงินค่าข้าว เงินค่ากะ เงินค่าทำงานวันหยุด และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า โดยจะไปพูดคุยกับพนักงานอีกครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (19 กันยายน 2566) ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังหนุ่มโรงงาน วัย 20 ปี หนุ่มลูกจ้างโรงงานที่เป็นข่าว ปรากฏว่าน้องตั้งแจ้งแต่เพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าจากบริษัทซัพคอนแทรคแล้ว แต่ไม่สะดวกที่จะให้ข่าวใดๆ เพราะตอนนี้อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในช่วงความรู้สึกแบบนี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางณัชชา อายุ 56 ปี แม่ของหนุ่มโรงงานคนดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนจากบริษัทซัพคอนแทรคและโรงงานมาหาครอบครัว ที่ ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา และได้พูดคุยกับลูกชาย เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทางโรงงานพร้อมที่จะรับเข้าไปทำงานตามเดิม

แต่ลูกชายได้ตอบปฏิเสธไป ทางโรงงานจึงได้มอบเงินค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้ พร้อมกับจ่ายเงินค่าจ้างทดแทนบอกล่วงหน้าให้ด้วย ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่ารวมเป็นเงินกี่บาท เพราะลูกชายยังไม่ได้เปิดซองดู ทราบแต่เพียงว่าจะไม่เข้าไปทำงานที่เดิมแล้ว ตอนนี้เมื่อทางโรงงานมาแสดงความรับผิดชอบ ก็ขอให้เรื่องจบกันด้วยดี