'บิ๊กโจ๊ก' เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดียิง 'สารวัตรแบงค์'

'บิ๊กโจ๊ก' เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดียิง 'สารวัตรแบงค์'

"บิ๊กโจ๊ก" เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี ยิงพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ "สารวัตรแบงค์" ด้าน พยาน เผยนาทีช่วยคนเจ็บ ส่ง รพ. ส่วน พงส.แจ้งข้อหาทำลายหลักฐาน คนนำอาวุธปืนไปซ่อน กับ คนโยนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดทิ้ง

ความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หรือ "สารวัตรแบงค์" เสียชีวิต ที่มี "กำนันนก" นายประวีณ จันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง จ.นครปฐม เป็นผู้ต้องหา ร่วมกับตำรวจอีก 6 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากให้การช่วยเหลือ กำนันนก และ "หน่อง ท่าผา" มือปืนที่ถูกวิสามัญ 

ต่อมา มีรายงานว่า คณะทำงานของ พล.ต.อ.สุเชรษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 'บิ๊กโจ๊ก' ได้ทยอยเข้ามา เพื่อร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวในช่วงค่ำวันนี้ ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) โดยตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงบ้านกำนันนกในฐานะพยาน โดยละเอียด ซึ่งจะมีการแยกสอบที่บริเวณชั้น 2

หนึ่งในนั้น คือ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ที่ร่วมอยู่ในงานเลี้ยง และที่ปรากฎภาพช่วยพา สารวัตรสิว ส่งโรงพยาบาล โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พ.ต.อ.กฤษฎาพร ถึงวันเกิดเหตุ ว่าตอนนั้นได้มีการช่วยเหลือสารวัตรสิว หรือไม่ โดยผู้กำกับ สน.พญาไท พยักหน้ายืนยันว่าไ ด้ช่วยเหลือสารวัตรสิวหลังจากถูกยิงจริง

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ในคืนเกิดเหตุหลังจากที่สารวัตรสิวถูกยิง ทาง ผกก.สน.พญาไท เห็นบุคคลที่สั่งการให้ลบหลักฐานกล้องวงจรปิด รวมถึงเห็นคนสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา เพื่อช่วยให้หลบหนีหรือไม่ โดยประเด็นนี้ พ.ต.อ.กฤษฎาพร ได้ตอบด้วยการส่ายหัวแล้วโบกมือว่า ไม่เห็น

ขณะที่บริเวณชั้นล่าง ตำรวจได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุที่ไม่ใช่ตำรวจเข้ามาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ได้เข้าตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีและเทียบเคียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนประเด็นเรื่องของการจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้น จากการสอบถามคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี ระบุเพียงว่า ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ส่วนคนที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้ง คาดว่า จะมีการแจ้งพิจารณาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

  • นาทีช่วยคนเจ็บ ส่ง รพ.พร้อมตำรวจ

หนึ่งในพยาน คดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงบ้านกำนันนก เปิดเผยสั้นๆ ภายหลังเข้าให้ปากคำกับชุดคลี่คลายคดีวันนี้ ว่า ตนเองไปร่วมงานกับแฟนที่เป็นตำรวจ และในระหว่างเกิดเหตุ เป็นช่วงที่เข้าห้องน้ำเลยไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ได้ยินเสียงปืนหลายนัด พอออกมาจากห้องน้ำเห็นแค่คนเจ็บ

ส่วนก่อนเข้าห้องน้ำ ก็ไม่เห็น "กำนันนก" และหน่อง คุยกับสารวัตรสิว เพราะสายตาสั้น และไม่ได้ยินเสียงทะเลาะอะไรกัน ทุกอย่างปกติ และหลังออกมาจากห้องน้ำ ก็รีบพาคนเจ็บมาโรงพยาบาลทันที พร้อมกับรถของ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม เลยไม่เห็น ด้วยว่ามีใครสั่งการให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือไม่อย่างไร และไม่ได้เห็นว่าใครทำลายหลักฐาน ซึ่งหลังจากมาถึงโรงพยาบาล ตนเองและตำรวจที่ช่วยคนเจ็บมาส่งโรงพยาบาล ก็อยู่ที่โรงพยาบาลถึงตี 2  ซึ่งระหว่างนั้น ก็มีตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทยอยมาที่โรงพยาบาลเรื่อยๆ

ส่วนความคืบหน้าทางคดี หลังจากพนักงานสอบสวนสอบปากคำ นายเก่ง และนายโบ๊ท ตลอดทั้งวัน ทั้งสองได้ให้การรับสารภาพ โดยนายเก่ง เป็นคนนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซุกซ่อน ส่วนนายโบ๊ท นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปโยนทิ้ง ทางพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหา 1 ข้อหากับทั้ง 2 คน ในข้อหา ทำลายหลักฐาน