‘บิ๊กโจ๊ก’ สอบเครียด 6 ตร.เอี่ยวยิง พ.ต.ต.ศิวกร ซัดสุดชั่วเป็นเบ๊ ‘กำนันนก’

‘บิ๊กโจ๊ก’ สอบเครียด 6 ตร.เอี่ยวยิง พ.ต.ต.ศิวกร ซัดสุดชั่วเป็นเบ๊ ‘กำนันนก’

"บิ๊กโจ๊ก" สอบเครียด 6 ตำรวจเอี่ยวยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ซัดสุดชั่วทำตัวเป็นเบ๊ "กำนันนก" ลั่นมีออกหมายจับเพิ่มแน่

ความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า มีตำรวจเอี่ยวช่วยแก๊ง "กำนันนก" ทำลายหลักฐาน และพาคนร้ายหลบหนี และเตรียมที่จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม 

ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครปฐม ได้ออกหมายจับตำรวจทั้ง 6 นาย ความผิดร่วมกันช่วยเหลือผู้ต้องหา และร่วมกันทำลายหลักฐาน ประกอบด้วย 

1.พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน

2.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

3.ร.ต.ต.นิมิตร สลิดกุล รองสว.จร.สภ.เมืองนครปฐม

4.ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ ตำแหน่ง รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

5.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ตำแหน่ง รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

6.ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ได้มีควบคุมตัว ตำรวจทั้ง 6 นาย ที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ และถูกศาลออกหมาย โดยในเวลา 22.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางที่ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และสอบปากคำ ตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ถูกออกหมายจับและถูกควบคุมตัว หลังจากไปติดตามการงมหาเซิร์ฟเวอร์ ร่วมกับ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า สำหรับการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย คือชุดที่ปรากฏชัดเจนว่า มีส่วนเกี่ยวกับการซ่อนทั้งปืน และเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพบางส่วน แต่การรับสารภาพหรือไม่รับ ไม่ใช่ประเด็น โดยศาลเชื่อในพยานหลักฐาน เริ่มจากมีการดึงปืนออกจากตัวนายหน่อง และพานายหน่องและกำนันนกหลบหนี  เป็นพฤติกรรมชัดเจนตามข้อหา ซึ่งในประเด็นที่มีการจับตัวนายหน่องไว้แล้ว แต่ก็มีการปล่อยตัวไป ซึ่งถือว่าแย่ทั้ง 20 กว่าคน ซึ่งมีพยานส่วนไหนก็ออกหมายจับไปก่อน 

 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ถ้าไม่มีตำรวจไปช่วยเหลือ การทำลายสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยาน คนอย่างกำนันนกไม่ได้จบอะไรมาเลย ไม่มีความรู้อะไรเลย จะทำได้อย่างไร และเรื่องการอารักขา รวมถึงที่รองสารวัตรจราจร ได้นำอาวุธปืนไปให้กำนันนกใช้ และนำไปส่งต่อให้นายหน่องใช้ และไม่ได้โอนชื่อ และตัวยังเอารถของกำนันนก ไปซ่อนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง 

พฤติกรรมชั่ว ๆ แบบนี้ ต้องปราบให้หมด และตำรวจทำตัวไปเป็นลูกน้องเขา ซึ่งคนเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นมาได้ เพราะตำรวจไปเป็นเบ๊ให้เขา และบางคนอยู่ตั้งแต่ตนเองเป็นร้อยตำรวจเอกที่นี่ ก็ต้องเอาซะที ส่วนชุดนี้มีตำรวจที่พาหลบหนีด้วย และมีส่วนอื่นอีก ซึ่งส่วนอื่นอีกที่มีหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้วด้วย 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า นายหน่องไม่ได้มีปัญหาโกรธเคืองกับสารวัตรมาก่อน ซึ่งมีลักษณะบอกให้นายหน่องทำ ซึ่งต้องแยกกันออกมา โดยในส่วนตำรวจที่อยู่ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งไว้แล้ว ในส่วนของตำรวจทางหลวง ก็จะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่จะมีการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการพิจารณาเช่นเดียวกัน 

ส่วน พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม ได้ให้มีการออกจากราชการไว้แล้ว และจะมีตำรวจและพลเรือน ที่จะออกกหมายจับต่อไป  

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.และผู้บังคับบัญชาได้มีการรสั่งการชัดเจน ซึ่งตำรวจมีทั้งหมด 2 แสนกว่านาย แน่นอนต้องมีคนดีมากกว่าคนไม่ดี คนไม่ดีก็ต้องไม่เลี้ยงไว้ และปฏิบัติเหมือนผู้ต้องหารายทั่วไป และต้องกำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับว่า ต้องไปกำชับลูกน้องตัวเอง ต้องไม่ไปเดินตามนักการเมือง และผู้มีอิทธิพล และตำรวจที่เป็นระดับผู้กำกับ ที่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาว่า เขาประสิทธิประสาทวิชามาให้แล้ว แต่กลับมาเดินตามนักการเมือง ซึ่งไม่มีความรู้อะไรเลย 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของรองสารวัตรจราจรเอง ก็ยังขับรถให้ผู้การอยู่เลย ซึ่งความย่ำแย่แบบนี้ ทั้ง 25 คนนี่ก็ย่ำแย่แล้ว แต่ผู้การฯและผู้กำกับก็ยิ่งย่ำแย่เข้าไปอีก ถ้ามีความเข้มแข็งเรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิด เราอยู่ในพื้นที่แบบนี้ ก็ยังปล่อยให้คนเหล่านี้พกปืนได้ตามอำเภอใจได้อย่างไร และจะเริ่มพรุ่งนี้ต่อ คาดว่าอีก 2 อาทิตย์ก็น่าจะแล้วเสร็จ และจากนี้จะมีการไล่เครือข่ายกำนันนกว่า จะมีใครร่วมขบวนการบ้าง ก็ต้องไล่มาดำเนินคดีให้หมด และการตรวจสอบทางธุรกิจว่า มีการทำต้องทำกฏหมายด้วยเปล่า