ปอศ. รวบ แก๊งปล่อยกู้ออนไลน์ สะพัดกว่า 160 ล้าน

ปอศ. รวบ แก๊งปล่อยกู้ออนไลน์ สะพัดกว่า 160 ล้าน

ตำรวจ ปอศ.รวบ 3 ผู้ต้องหา หลอกปล่อยกู้ออนไลน์ ก่อนตระเวนกดเอทีเอ็มตามแนวชายแดนภาคเหนือ โอนเงินเหยื่อส่งนายทุนต่างชาติกว่า 10 ล้านบาท จากเงินหมุนเวียน 160 ล้านบาท เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้านล่าอีก 6 ผู้ต้องหา

วันนี้ (5 ก.ย. 66) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ.พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจค้น กวาดล้างจับกุมแก๊งหลอกกู้เงินออนไลน์ หลายจุดในพื้นที่ จ.เชียงราย, พะเยา และลำปาง สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ณัฐสิมา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี นายกวินท์ (สงวนนามสกุล)อายุ 29 ปี นายจิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ”

ปอศ. รวบ แก๊งปล่อยกู้ออนไลน์ สะพัดกว่า 160 ล้าน
 

สืบเนื่องจาก มิจฉาชีพเปิดเพจเฟซบุ๊ก “สินเชื่อเงินกู้ด่วน1” โพสต์ข้อความอ้างว่า สามารถปล่อยสินเชื่อ ไม่เช็คเครดิต ดอกเบี้ยต่ำ โดยต้องโอนเงินจ่ายค่าธรรมเนียม คิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดเงินที่ต้องการกู้ เช่นกู้ 50,000 บาท จะต้องโอนไป 5,000 บาท อ้างเป็นเงินค้ำประกัน แต่ไม่มีการปล่อยสินเชื่อจริง ตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนตัดขาดการติดต่อหนีหายไป ทำให้เหยื่อจำนวนมากเสียหายเป็นเงินหลายล้านบาท

ผลการสืบสวน พบ กลุ่มคนร้ายใช้ 8 บัญชีในการกระทำผิด แบ่งเป็น บัญชีที่ใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหาย , บัญชีที่ใช้โอนเงินเป็นทอดๆ และบัญชีที่ใช้รับผลประโยชน์โดยถอนออกและนำไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยเฉพาะการโอนเงินไปซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคอีกหลายรายการ ส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 160 ล้านบาท 

ปอศ. รวบ แก๊งปล่อยกู้ออนไลน์ สะพัดกว่า 160 ล้าน
 

อีกทั้ง การรับผลประโยชน์สุดท้าย เป็นบัญชีของชาวต่างชาติ ซึ่งมีการตระเวนกดเงินสดหลายครั้งจากตู้เอทีเอ็ม บริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย- พม่า ยอดรวมกว่า 10 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ราย ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายต่างๆ จนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนผู้ต้องหาเหลืออีก 6 ราย จากการสืบสวนพบหลบหนีไปกบดานอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป