จับเท้าแชร์ 'นู๋แต้ว' ใช้เฟซบุ๊กตุ๋นชาวบ้านลงทุนสูญ 10 ล้าน ค้นบ้านว่างเปล่า

จับเท้าแชร์ 'นู๋แต้ว' ใช้เฟซบุ๊กตุ๋นชาวบ้านลงทุนสูญ 10 ล้าน ค้นบ้านว่างเปล่า

ตำรวจกองปราบ ลุยค้นโคราช 2 จุด บุกจับ “นู๋แต้วออมเงินออมทอง” เท้าแชร์ออนไลน์ ใช้วิธีโพสต์เฟซบุ๊กชวนลงทุน ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ 100 ราย ล่อใจผลตอบแทนสูงร้อยละ 50 ช่วงแรก สุดท้ายสูญเงินร่วม 10 ล้าน สารภาพแค่หมุนเงินใช้จ่ายเอง ไม่ได้ลงทุนจริง ค้นบ้านไม่เจอทรัพย์สินมีค่า

ตำรวจลุยจับ "เท้าแชร์ออนไลน์" หลอกลวงประชาชน ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย , พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อตามจับกุมตัว เท้าแชร์ออนไลน์ “บ้านนู๋แต้วออมเงินออมทอง” หลังก่อเหตุหลอกลวงชาวบ้านให้นำเงินมาลงทุนแชร์ออนไลน์ จนมีเหยื่อหลงเชื่อนับร้อยรายสูญเงินร่วม 10 ล้านบาท

เป้าหมายเป็นบ้าน ใน ม.1 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่พักอาศัยปัจจุบันของ น.ส.ขนิษฐา อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 330/2566 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2566 ข้อหา

  • ฉ้อโกงประชาชน
  • โฆษณาให้ปรากฎแก่บุคคลสิบคนขึ้นไปในการยืมเงินโดยอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมาย หรือ นำเงินจากการกู้ยืมรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียน
  • นำเข้าสู่ระบอบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ 

ซึ่งเป็นเท้าแชร์ออนไลน์กลุ่มดังกล่าว

ทันทีที่ไปถึงพบเป็นบ้านพักชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นขอเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักพบ น.ส.ขนิษฐา กำลังนอนพักผ่อน จึงแสดงหมายจับให้เจ้าตัวรับทราบก่อนทำการจับกุมตัว พร้อมกับตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และ สมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ยังแบ่งกำลังอีกส่วนเข้าตรวจค้นบ้านพัก ม.10 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักเดิมของ น.ส.ขนิษฐา และ ครอบครัว เพื่อค้นหาพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า สำหรับการจับกุมตัว น.ส.ขนิษฐา นั้น เนื่องจากเมื่อปี 2565 เจ้าตัวได้มีพฤติกรรมโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนผู้คนให้นำเงินมาร่วมลงทุนวงแชร์ “บ้านนู๋แต้วออมเงินออมทอง” อ้างให้ผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 50 ของเงินลงทุนต่อเดือน ช่วงแรกมีการจ่ายเงินผลตอบแทนจริง จากนั้นจึงเริ่มออกลายบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาต่างๆก่อนจะเริ่มตัดขาดการติดต่อแล้วปิดวงแชร์หนีไปในที่สุด ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายรวมร่วม 10 ล้านบาท

พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า จากการสอบสวนเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าได้เปิดวงแชร์จริง ซึ่งเงินที่ได้ส่วนใหญ่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงนำไปหมุนจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้กับสมาชิก ในลักษณะของการนำเงินสมาชิกใหม่มาจ่ายดอกเบี้ยให้กับสมาชิกเก่า ไม่ได้มีการนำไปลงทุนให้เกิดผลประโยชน์งอกเงย 

“เงินหมดก็จะเปิดวงแชร์ระยะสั้นขึ้นมาใหม่ เพื่อหาเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกเก่า แต่เมื่อหมุนไปได้สักระยะจึงเกิดปัญหาไม่มีเงินจ่ายทำให้วงแชร์ล้มลงในที่สุด  ซึ่งสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ที่ภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด ทั้งบ้านมีเพียง พัดลมเก่า 1 ตัว กับกาต้มน้ำร้อน 1 เครื่อง ฟูกที่นอน 1 หลัง พร้อมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวนหนึ่ง ไร้ซึ่งทรัพย์สินมีค่าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ”

พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจคำให้การทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินให้แน่ชัดว่าเงินที่ได้มาจากผู้เสียหายนั้น มีการผ่องถ่ายไปไว้ที่ใดหรือแปลงเป็นทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบหรือไม่ต่อไป

ส่วนตัว น.ส.ขนิษฐา นั้น หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป