ประวีณมัย บ่ายคล้อย แชร์อุทาหรณ์ถูกดูดเงินล้าน เล่าหมดเปลือกอุบายมิจฉาชีพ

ประวีณมัย บ่ายคล้อย แชร์อุทาหรณ์ถูกดูดเงินล้าน เล่าหมดเปลือกอุบายมิจฉาชีพ

ตาล ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ล่าสุด ผู้ประกาศข่าวคนดังได้โพสต์รีวิว แชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งถูกมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน หลอกติดตั้งแอปฯ ก่อนดูดเงินออกจากบัญชี 1,020,000 บาท

ตาล ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ก่อนหลอกติดตั้งแอปพลิเคชั่นก่อนถูกดูดเงินในบัญชีเสียหาย 1,020,000 บาท นั้น 

ล่าสุดทาง ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวคนดัง ได้โพสต์รีวิว แชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งถูกดูดเงินออกจากบัญชี ซึ่งเธอก็ได้แต่หวังว่า กระบวนการของธนาคารและกฎหมายจะทำอะไรคนกลุ่มพวกนี้ได้บ้าง และขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคน ที่ส่งเข้ามาอย่างล้นหลามจากทุกช่องทาง

รีวิวเรื่องของฉัน ที่ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ดูดเงินล้านผ่านมือถือ

มิจฉาชีพโทรเข้ามือถือ บอกว่าจากกรมที่ดิน ถามว่าเราได้รับใบแจ้งเรื่องภาษีที่ดินไหม และบอกรายละเอียดข้อมูลที่ดินถูกต้อง ให้เราอัปเดตข้อมูลที่ดิน ซึ่งวิธีการอัปเดตมี 2 ทาง คือ

  1. ต้องไปติดต่อกรมที่ดินเอง
  2. สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ของกรมที่ดิน

ฉันที่ตอนนั้นนั่งทำงานหน้าคอมอยู่พอดี เลยบอกว่างั้นขอทำผ่านออนไลน์ โดยมิจฉาชีพบอก ให้แอด Line : dol5124 จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา บอกด้วยว่า ให้รีบดำเนินการ เพราะเคสเราตกหล่นนานแล้ว

ฉันแอดไลน์ตามที่บอก มิจฉาชีพทักมาขอโทรมาคุย บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินฝ่ายออนไลน์ จะให้อัปเดตข้อมูลที่ดิน และให้เลขโฉนดที่ดิน หน้าระวาง หน้าสำรวจ เลขที่ดิน เนื้อที่ มา ซึ่งพอมาเช็กดูทีหลัง ข้อมูลมิจฉาชีพถูกหมดเลย

ฉันที่อยู่หน้าคอม เข้าเว็บไซต์กรมที่ดินไว้รอแล้ว แต่มิจฉาชีพบอกว่า กรมที่ดิน มีแอปฯใช้ IOS หรือ Android ฉันหลงกลมิจฉาชีพไปแล้ว บอกว่าใช้ Android

จากนั้นจำไม่ได้จริงๆ ว่า แอปฯของมิจฉาชีพมาติดตั้งในเครื่องฉันได้ยังไง ฉันคิดว่าไม่ได้โหลดจาก Play Store และมิจฉาชีพไม่ได้ส่งลิงก์มา จนตอนนี้ยังคิดไม่ออก แต่แอปฯมาอยู่ในเครื่องแน่ๆ หน้าตาแอปฯเป็นโลโก้ กรมที่ดิน มิจฉาชีพบอกต่อไปนี้ให้ทำการอัปเดตข้อมูลที่ดินทางแอปฯได้เลย แต่ต้องใส่รหัส 6 หลัก 2 รอบ รหัส 4 หลัก 2 รอบ

แล้วจากนั้นแอปฯมิจฉาชีพขึ้นว่า กำลังโหลดข้อมูลให้รอไปโหลดข้อมูลให้เสร็จ แล้วมิจฉาชีพก็บอกว่า ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และกรมที่ดินมีระบบสแกนใบหน้าเพื่อความปลอดภัย จนฉันก็ทำตามมันไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นมิจฉาชีพก็หาเรื่องที่ดินมาคุยมาถามไปเรื่อย

กว่าจะเอะใจ ก็คุยกับมิจฉาชีพอยู่นาน ถามว่าคุณชื่ออะไร มิจฉาชีพบอกชื่อมา เราก็เช็กที่หน้าคอมทันที มีเจ้าหน้าที่ที่ดินชื่อนี้จริงๆ แต่อยู่ที่ภูเก็ต จนสุดท้ายเราบอกไม่เอาแล้ว เขายังถ่วงเวลาด้วยการบอกว่า จะออกจากแอปฯไม่ได้ ถ้าไม่สแกนใบหน้า หรือให้ไอทีมาดู ตอนนั้นฉันเพิ่งจะเอ๊ะว่าโดนแล้ว เลยรีบวางสาย

พอมาดูโทรศัพท์ แอปฯธนาคารหลายธนาคารเด้งออกมานอกโฟลเดอร์ ตามไปเช็กทีละธนาคาร จนรู้ว่ามีบัญชีที่มิจฉาชีพเข้าไป

  • กรุงไทย เอาเงินฝากไป 155,000 บาท
  • ไทยพาณิชย์ ทำรายการเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต ยอด 49,999 บาท 4 ครั้ง รวมประมาณ 200,000 บาท
  • กสิกร เบิกเงินสดจากบัตรเครดิตออกมาทั้งหมด 625,000 บาท แล้วเอาเงินฝากไปอีก 50,000 กว่าบาท

สิริรวมความเสียหาย 1 ล้าน 2 หมื่นบาท

พอรู้ความ ก็คือการรีบระงับบัญชีบัตรเครดิตทุกบัญชี กระบวนการของธนาคารคือ แต่ละธนาคารจะออก Case ID เพื่อให้นำเลขนี้ไปแจ้งความ แล้วเอากลับมาให้ธนาคารปลายทางที่มิจฉาชีพโอนไประงับบัญชี

ตอนนี้ได้แต่หวังว่ากระบวนการของธนาคารและกฏหมายจะทำอะไรมิจได้บ้าง

สุดท้าย ยังจบรีวิวไม่ได้ ถ้าไม่ได้ขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคน ทุกช่องทาง ที่ส่งเข้ามา หลายๆ คนที่ได้ช่วยเป็นธุระ ติดตาม ให้คำแนะนำ ทั้งเรื่อง คดี เรื่องธนาคาร เรื่องต้องระวังมัลแวร์ที่มิจอาจยังฝังไว้อยู่ เรื่องราวนี้จึงมีทั้งเรื่องช็อค และความซาบซึ้งใจ ให้ฉันในวันนี้