10 วิธีป้องกันภัยคุกคามทาง 'อีเมล' ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

10 วิธีป้องกันภัยคุกคามทาง 'อีเมล' ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

เช็ก '10 วิธี' ป้องกันภัยคุกคามทาง 'อีเมล' สพธอ.แนะป้องกันไว้จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของ 'มิจฉาชีพ' ในโลกออนไลน์

ในยุคสารสนเทศที่ไร้พรมแดนผู้คนทั่วโลกต่างก็ใช้ อีเมล (E-mail) เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็อาจเป็นช่องโหว่ให้แก่เหล่า 'มิจฉาชีพ' ในการแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆได้ หากเห็นข้อความที่มีการขอชื่อบัญชีและรหัสผ่านของคุณในขณะเปิดอีเมล หรือในอีเมลของคุณมีไวรัส ให้คิดไว้เลยว่าอาจจะกำลังตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวงได้

 

 

ผู้หลอกลวง (มิจฉาชีพ) จะทำทุกวิถีทางทั้งอีเมลปลอม โฆษณาป๊อปอัพ ข้อความตัวอักษร ลิงก์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ไม่พึงประสงค์ เพื่อพยายามหลอกให้คุณแชร์ข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ ดังนั้นเพื่อป้องกันภัยคุกคามอันเกิดจากอีเมลหลอกลวงดังกล่าว ให้ทำตาม 10 คำแนะนำการป้องกันภัยคุกคามทางอีเมล ดังนี้

 

1. ตั้งรหัสผ่าน (Password) ที่คาดเดาได้ยาก และหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ

2. ดูแลช่องทางที่ใช้ในการเปลี่ยน (Reset) รหัสผ่านให้มีความมั่นคงปลอดภัย เช่น อีเมลสำรองสำหรับกู้คืนบัญชี

3. หมั่นตรวจสอบประวัติการใช้งานที่น่าสงสัย รวมถึงช่องทางในการยืนยันตัวตนอย่างสม่ำเสมอ

4. ติดตั้งโปรแกรม AntiVirus อัปเดตระบบปฏิบัติการ และ Web Browser รวมถึงตัวซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

5. หลีกเลี่ยงการใช้เว็บเมลผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ และไม่ควรตั้งค่าให้ Web Browser จำรหัสผ่าน

 

 

6. ระวังในการเปิดไฟล์แนบ หรือคลิกลิงก์ที่พาไปเว็บไซต์อื่น

7. แม้อีเมลจากคนรู้จัก ก็อาจเป็นคนร้ายปลอมตัวมาก็ได้ ถ้าไม่แน่ใจ ควรยืนยันช่องทางอื่นที่ไม่ใช่อีเมล เช่น แจ้งยืนยันเปลี่ยนเลขที่บัญชีโอนเงินทางโทรศัพท์

8. ควรเปิดการใช้งานยืนยันตัวตนแบบ 2 Factor Authentication โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ อีเมลสำรอง หรือแอป เช่น Google Authenticator

9. ตรวจสอบรายชื่อผู้รับอีเมลก่อนกดปุ่ม Reply หรือ Reply All ทุกครั้ง เพราะผู้ร้ายมักใช้เทคนิคตั้งชื่ออีเมลที่ใกล้เคียงกับคนที่เรารู้จัก เช่น [email protected] กับ  [email protected] (เลข 0 แทนตัวอักษร o)

10. อย่าหลงเชื่ออีเมลที่หลอกให้เปลี่ยนรหัสผ่านหรือให้อัปเดตข้อมูลส่วนตัว หากไม่แน่ใจควรสอบถามผู้ที่ส่งข้อมูลมาในทางช่องทางอื่นๆอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ขอให้ผู้ใช้งานอีเมลควรหมั่นตรวจสอบการตั้งค่าชื่อบัญชีอีเมลของตนเองว่า เบอร์โทรศัพท์ อีเมลสำรองที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันถูกต้องไม่มีอะไรผิดปกติ หากพบความผิดปกติควรดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

 

ที่มา สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์