จับสาวหัวโจก 'แก๊งบุษราคัม' หลอกให้รักตบเอารถ เหยื่อเพียบไม่ต่ำกว่า 15 ราย

จับสาวหัวโจก 'แก๊งบุษราคัม' หลอกให้รักตบเอารถ เหยื่อเพียบไม่ต่ำกว่า 15 ราย

ตำรวจนครบาล บุกจับหัวโจก “แก๊งบุษราคัม” หลอกให้รักตบเอารถ วางแผนร่วมกันสร้างสถานการณ์ลวงให้ หนุ่มขี้เหงาดาวน์รถป้ายแดง ก่อนแยกย้ายหนีหาย จนมุมตำรวจขณะเตรียมหนี จากบ้านพัก จ.ราชบุรี เจ้าตัวยังปากแข็ง ให้การปฏิเสธ พบเหยื่อตกหลุมพรางไม่ต่ำกว่า 15 ราย

กรณี 'แก๊งบุษราคัม' หลอกให้รักตบเอารถ พบเหยื่อเพียบ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.นำกำลังจับกุมตัว  น.ส.เดือนเพ็ญ หรือ “แฮม” อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายถูก แก๊งบุษราคัม หลอกลวง โดยให้สาวสวยรายหนึ่ง ทราบภายหลังชื่อ น.ส.บุษราคัม เข้ามาทำทีตีสนิท “แสร้งรัก” กับเหล่าผู้ชาย และสานความสัมพันธ์ จนกระทั่งมีความสนิทในระดับหนึ่งก่อนจะใช้ “ลูกอ้อน” ขอให้ใช้ชื่อทำสัญญาเช่าซื้อรถให้ 

โดยจะอ้างว่า ตัวเองติดแบล็คลิส ส่วนค่าเงินดาวน์ และผ่อนชำระค่างวด จะรับผิดชอบเอง ซึ่งเหยื่อเห็นว่าเป็นเพียงแค่การใช้ชื่อทำสัญญา ไม่ได้เสียเงินใดๆ ประกอบกับอาการตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก ต่างหลงเชื่อดาวน์รถให้

และในวันนัดทำสัญญาเช่าซื้อรถ น.ส.บุษราคัม จะให้เพื่อนร่วมขบวนการอีก 3 คน มาสร้างสถานการณ์ โดยทำทีแสดงเป็นญาติและช่วยกันต้มตุ๋นเหยื่อ จนสุดท้าย เมื่อเหยื่อจ่ายเงินดาวน์รถเรียบร้อยแล้วทั้ง 4 คน ก็จะหายไปพร้อมกับรถที่ดาวน์ออกมาไปอย่างมึนงง 

ทำให้ผู้เสียหายต้องตกเป็นเหยื่อ ผ่อนกุญแจ เสียเงินไปฟรีๆ ทุกเดือน โดยแก๊งนี้ออกอาละวาดในพื้นที่ ภาคตะวันออก , ภาคกลาง และภาคตะวันตก

โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย โดยล่าสุดในห้วงปี 2566 แก๊งนี้ได้ออกอาละวาดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 2 ราย

จับสาวหัวโจก \'แก๊งบุษราคัม\' หลอกให้รักตบเอารถ เหยื่อเพียบไม่ต่ำกว่า 15 ราย

โดยเหยื่อทั้งสองรายได้พบกับขบวนการต้มตุ๋นนี้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ พูดคุยกันทำนองชู้สาวกับหญิงสาวซึ่งชื่อว่า น.ส.บุษราคัม จากนั้นได้ถูกต้มตุ๋นให้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กระบะ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สี่ประตู สีขาว ราคา 905,607.08 บาท ซึ่งสุดท้ายก็ถูกขบวนการนี้ต้มตุ๋น และเชิดรถไปในวันทำสัญญาเช่าซื้อ 

ซึ่งตอนแรกยังตกอยู่ในอาการงุนงง แต่เมื่อเริ่มได้สติ ผู้เสียหายเริ่มติดใจสงสัย จึงนำชื่อ และสกุลของผู้ต้องหาไปสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต จึงพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะนี้หลายคดี การกระทำของผู้ต้องหากับพวกซึ่งมีลักษณะเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สร้างเหตุการณ์ขึ้นมาให้ผู้เสียหายตายใจ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และได้แจ้งเบาะแสมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” 

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ตรวจสอบแผนประทุษกรรมแล้วพบว่าแก๊งต้มตุ๋น แก๊งนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน มีรูปแบบการหลอกลวงที่แนบเนียน จึงได้ส่งชุด สืบนครบาล สืบสวนติดตาม จนกระทั่งสืบทราบว่า น.ส.เดือนเพ็ญ เป็นหัวโจกของขบวนการ หรือคนคอยวางแผนในการปฏิบัติการให้กับแก๊งบุษราคัม ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.เดือนเพ็ญ ในเวลาต่อมา จนนำไปสู่การจับกุมไว้ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชุมพล อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ขณะที่กำลังแพ็คกระเป๋าเพื่อเตรียมหลบหนี

สอบสวน น.ส.เดือนเพ็ญ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การวกไปวนมา จับใจความไม่ได้โดยตีบทแตกโกหกหน้าตายอ้างว่า ตนเองจบการศึกษาชั้น ปวช. จากโรงเรียนชื่อดังใน จ.ราชบุรี แต่ไม่ได้เรียนเนื่องจากได้ตั้งครรถ์บุตรก่อน ปัจจุบันทำงานค้าขาย ในทางคดีนั้นตนไม่รู้เรื่องการลักรถของ น.ส.บุษราคัม แต่อย่างใด และไม่รู้จักกันด้วย 

ส่วนเงินที่โอนกันไปมาระหว่างตน และบุษราคัม เป็นค่ายืมเงินจิปาถะทั่วไป ส่วนที่ไปเจอกับเหล่าเหยื่อในห้างนั้น น.ส.บุษราคัม หลอกให้ตนเองไปเป็นเพื่อน โดยตนเองไม่ทราบเลยว่า มีการไปหลอกลวงคนอื่นๆ 

แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษคดีอาญา 2 คดี วันที่ 19 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง และวันที่ 9 ก.พ. 66 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง หลังการจับกุมได้นำตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากข้อมูลของ น.ส.เดือนเพ็ญ ยังคงให้การวกวน ซึ่งตำรวจคงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การแต่อย่างใด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนที่เคยตกเป็นเหยื่อ หรือที่กำลังจะถูกแก๊งนี้หลอกลวง โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB จะมีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.