วัยรุ่น 30 คน ไล่ฟัน-ยิงเด็ก 16 สาหัส เผา จยย. เหลือแต่ซาก

วัยรุ่น 30 คน ไล่ฟัน-ยิงเด็ก 16 สาหัส เผา จยย. เหลือแต่ซาก

พ่อร้องสื่อ ลูกชายวัย 16 กลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน รุมตี ไล่ฟัน ก่อนยิงซ้ำ แถมเผาจักรยานยนต์เหลือแต่ซาก ไร้เครื่องมือขับวินเลี้ยงชีพ ขณะที่ลูกปางตาย วอนตำรวจเร่งจับกุม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น ได้รับการร้องเรียนจาก นายจำลอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี อาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้าง ว่าลูกชายชื่อน้องนนท์ (ขอสงวนชื่อและนามสกลุล) อายุ 16 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่จักรยานยนต์กว่า 15 คัน รุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟัน รวมถึงใช้ปืนยิง 1 นัด เข้าใต้ราวนม บาดเจ็บสาหัส ก่อนเผาจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสกู๊ปปี้ สีเทา ทะเบียน กกฉ 270 นนทบุรี ที่ใช้ขับวินดำรงชีวิตอยู่ไหม้กลายเป็นเศษเหล็ก เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าฝ่ายติดตั้งและปฏิบัติการสื่อสารที่ 2 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น.

 นายจำลอง กล่าวว่า เวลาประมาณ 03.30 น. วันเกิดเหตุ น้องนนท์ลูกชายมาหา แล้วบอกว่าจะออกข้างนอก ไปเอาบัตรประชาชนให้เพื่อน ตนเองไม่ว่าอะไร ลูกชายก็ออกไปตามปกติ ผ่านไป 1 ชั่วโมง ลูกชายโทรมาบอกว่าถูกฟันและโดนยิง ด้วยความเป็นพ่อรู้สึกตกใจรีบเดินทางไปโรงพยาบาล ปรากฎว่าเจอลูกชายนอนอยู่บนเตียงหัวปูดบวมช้ำม่วง แขนขาเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว

ตอนแรกคิดว่าลูกไม่รอดแล้ว หมอแจ้งให้ทราบว่าทั้งตัวมีทั้งหมด 10 แผล โรงพยาบาลเอ็กซเรย์แล้วว่าถูกยิง 1 นัด มีกระสุนฝังติดอยู่ที่กระดูกซี่โครงใต้ราวนมด้านซ้าย ทำให้รอดหวุดหวิด หากไม่ติดกระดูกกระสุนอาจเข้าปอดจนทะลุ วันต่อมาทางหมอส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 และผ่าตัดเอากระสุนออก พบว่ากระสุนใหญ่เกือบเท่านิ้วโป้ง การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ตอนนี้ลูกชายพ้นขีดอันตราย แต่ยังคงต้องนอนรักษาตัวต่อ เพราะบาดเจ็บสาหัส

วัยรุ่น 30 คน ไล่ฟัน-ยิงเด็ก 16 สาหัส เผา จยย. เหลือแต่ซาก

นายจำลอง กล่าวต่อไปว่า หลังลูกชายอาการเริ่มดีขึ้น ตนเองสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทราบว่า หลังจากลูกชายให้บัตรประชาชนเพื่อนเสร็จก็เจอกลุ่มคู่อริที่ปากทางออก ก่อนจะวนรถจักรยานยนต์หลบหนีแล้วเสียหลักล้ม ทำให้เพื่อนและลูกชายวิ่งหนีไปคนละทาง ก่อนผู้ก่อเหตุจะตามเจอลูกชายและรุมทำร้ายหลายคน ทั้งเตะหน้า เอาหมวกกันน็อคฟาดหัว ใช้มีดฟัน จากนั้นใช้อาวุธปืนยิง ลูกชายล้มไปนอนกองกับพื้นแล้วทำทีแกล้งตายอยู่ข้างร่องน้ำ เพื่อให้คนร้ายหนีไป 

ผ่านไปไม่นานตำรวจสายตรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุและช่วยเหลือ จากนั้นขับตามผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทัน เกิดอุบัติเหตุรถล้มเสียก่อน กลายเป็นต้องมานอนรักษาข้างลูกชาย ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ลูกขับมาเป็นของตนเอง ถูกกลุ่มคนร้ายเผาไหม้เหลือแต่โครง ซึ่งจักรยานยนต์คันดังกล่าวตนเองใช้ประกอบอาชีพ ขับวินอยู่ทุกวัน ถูกเผาแบบนี้แล้วไม่รู้จะหารายได้มาจากไหนต่อ

อยากฝากถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุว่า ถ้าถูกกระทำลักษณะนี้บ้างจะเป็นยังไง อยากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้ออกมาก่อเหตุพกพาอาวุธในเวลากลางคืน พร้อมฝากถึงตำรวจ สภ.ปากเกร็ด สายตรวจ ให้ออกตรวจในเวลากลางคืนมากขึ้น จับวัยรุ่นที่ชอบจับกลุ่มในเวลากลางคืน ตรวจยึดอาวุธ เพื่อป้องกันเหตุ รวมถึงให้ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และชดใช้ค่าเสียหายกับสิ่งที่กระทำลงไป

ด้าน นายปาม (เพื่อนรุ่นพี่นายนนท์) กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองไปกับเพื่อน 7 คน ขี่จักรยานยนต์ไป 4 คัน เวลาประมาณ 03.00 น. จะไปเดินซื้อของที่ตลาดกรมชลประทาน แต่พ่อค้าแม่ค้ายังไม่ตั้งร้าน พวกตนจึงขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางเจอกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องประมาณเกือบ 30 คน ปิดล้อมทั้งทางด้านหน้าที่จะมุ่งเข้าปากเกร็ด และดักอยู่บริเวณแยกไฟแดงกรมชลประทานด้านหลัง ตนเองจึงตัดสินใจขี่จักรยานยนต์ย้อนศรกลับมา เพื่อจะเข้าไปหลบในกรมชลประทาน 

ส่วนเพื่อนอีก 3 คันก็แยกย้ายกันหนีไปคนละทาง จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่ตามตนเองมา และได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด ตนเองรู้สึกหนักๆ ที่เท้าเลยให้เพื่อนขับเข้าไปแอบในโรงพยาบาลกรมชลประทาน พอดูที่ขาจึงรู้ว่าถูกปืนยิง 1 นัด ตนเองไม่รู้จักกลุ่มที่ยิง แต่เคยเห็นใน tiktok เป็นกลุ่มวัยรุ่นแถวกรมชลประทาน หลังถูกยิงเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เสียค่าใช้จ่ายไป 1,700 บาท ระหว่างที่ตนเองรักษา ทางหมอถามถึงบัตรประชาชนเพื่อใช้สิทธิ์รักษา ตนเองลืมไว้ที่บ้านจึงโทรบอกน้องในกลุ่มที่มาด้วยกันและขับรถหนีตอนแรก ให้เอาบัตรประชาชนมาให้ที่โรงพยาบาลกรมชลประทานที่ตนเองพักรักษาตัวอยู่

หลังจากน้อง 2 คน ก็คือนนท์กับบอล เป็นคนเอาบัตรประชาชนมาให้ และกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ปรากฏว่าขับไปเจอวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่ใช้ปืนยิงตนเอง รวมตัวกันอยู่ที่หน้าป้อมยามกรมชลประทารทางออก น้องทั้งสองจึงวนรถกลับจะเข้าไปหลบในโรงพยาบาล แต่เสียหลักล้ม ทำให้นนท์ซึ่งเป็นคนขับ ถูกวัยรุ่นเอามีดฟันตามตัวกว่า 10 แผล และถูกฟันแขนแทบขาด ถูกอาวุธปืนยิงที่หลัง ส่วนอีกคนคือนายบอลที่มาด้วยกัน ถูกฟันที่มือ ก่อนกลุ่มวัยรุ่นใช้ระเบิดเพลิงปาใส่รถจักรยานยนต์จนเกิดไฟลุกไหม้วอดทั้งคันเหลือแต่ซาก ตอนนี้อยากให้ทางตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวกลุ่มวัยรุ่นจะมาก่อเหตุซ้ำอีก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเวลา 02.38 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 พบกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมากว่า 15 คัน แล้วรวมตัวกันที่แยกไฟแดงกรมชลประทาน ถ.ติวานนท์ จับกลุ่มขับวนเวียนไปมา 2-3 รอบ ส่วนกล้องบริเวณทางเข้าหน้ากรมชลประทาน พบรถจักรยานยนต์ขี่ย้อนศรมาคือ นายปาม ผู้บาดเจ็บ ซ้อนจักรยานยนต์เพื่อน ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่นิ้วโป้งเท้าด้านขวา ก่อนขี่หลบหนีเข้าไปยังโรงพยาบาลกรมชลประทาน ส่วนนายนนท์ ผู้บาดเจ็บสาหัส ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟัน รวมถึงถูกยิง 1 นัด เหตุเกิดเวลาประมาณ 04.00 น.กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเสีย ไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมมีการวางกำลังสายตรวจในช่วงเวลากลางคืนเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันเหตุ