ตร.-ปศุสัตว์ ทลายแหล่งซุกหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ ยึดของกลางร่วม 2 ตัน

ตร.-ปศุสัตว์ ทลายแหล่งซุกหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ ยึดของกลางร่วม 2 ตัน

ตำรวจ จับมือ ปศุสัตว์ บุกทลายแหล่งซุกซ่อนหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ หลังพบลักลอบนำเข้ามาในประเทศ เสี่ยงต่อเชื้อโรค กระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และผู้บริโภค ยึดของกลางกว่า 2 ตัน โดยไม่ทราบที่มา เตือนประชาชนหากมีเบาะแสแจ้งตำรวจได้ทุกช่องทาง

วันนี้ (20 ก.ค. 66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งการให้ บก.ปคบ. และ ภ.1 , ภ.2 , ภ.4 , ภ.7 และ ภ.8 ร่วมกับ กรมปศุสัตว์ บูรณาการเข้าตรวจสอบ สถานที่ต้องสงสัยลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย 13 แห่งทั่วประเทศ

หลังจากรัฐบาลมีนโยบายปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ และเข้ากระบวนการต่าง ๆ เพื่อนำออกสู่ท้องตลาด โดยมิได้ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับสินค้าอันไม่ถูกสุขลักษณะ รวมถึงอาจนำโรคระบาดชนิดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) มาแพร่ระบาด 

ตร.-ปศุสัตว์ ทลายแหล่งซุกหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ ยึดของกลางร่วม 2 ตัน

จึงทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสุกรภายในประเทศ และเกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตร.-ปศุสัตว์ ทลายแหล่งซุกหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ ยึดของกลางร่วม 2 ตัน

โดยจากการตรวจค้น 13 แห่ง พบว่ามีจำนวน 3 แห่ง ถูกใช้เป็นแหล่งซุกซ่อนหมูเถื่อนลักลอบนำเข้ามาในประเทศ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี 1 แห่ง และ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2 แห่ง เบื้องต้น สามารถอายัดซากสุกรแช่แข็ง รวมจำนวน 2,200 กิโลกรัม และเนื้อสัตว์อื่น จำนวน 200 กิโลกรัม ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิด พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตร.-ปศุสัตว์ ทลายแหล่งซุกหมูเถื่อน 13 จุดทั่วประเทศ ยึดของกลางร่วม 2 ตัน

ทั้งนี้ จึงฝากเตือนประชาชนและหากมีเบาะแส เรื่องร้องเรียนลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียน เบาะแสได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ. โทร.1135 และกรมปศุสัตว์ ผ่านแอพลิเคชั่น DLD 4.0