ผู้ว่าฯ พิจิตร ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

ผู้ว่าฯ พิจิตร ติดตามคดีวัดบางคลาน ถ้าไม่คืบจะขอ ให้ DSI มาช่วยทำคดี ที่รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความชาวบ้าน 37 ราย เหตุรุนแรงปฏิบัติการทวงคืนวัด ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มอดีตเจ้าอาวาส ขอเปลี่ยนพระองค์รูปมาเป็นเจ้าอาวาส

วันนี้ (17 ก.ค. 66) นายพยนต์ อัศวพิชยยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เดินทางที่สถานีตำรวจภูธรโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามคดีของวัดบางคลาน หลังจากที่นำกำลัง เจ้าหน้าที่ อส. จากหลายอำเภอเพื่อไปทวงคืนวัดบางคลาน จากกลุ่มชาวบ้าน อดีตเจ้าอาวาสวัดที่มรณภาพไปแล้ว ใช้หนังสติ๊ก ก้อนหิน ก้อนดิน ยิงใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย มีสิ่งของเสียหายจำนวนมาก 

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จากที่เดินทางมาที่อำเภอโพทะเล เพื่อให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ อส. และเพื่อติดตามคดี ว่าทำไมถึงทำคดีช้ามากหลายคดีมีอุปสรรคหรือไม่ หรือมีตำรวจน้อย หากมีตำรวจไม่สามารรถทำคดีได้ จะไปร้องขอ DSI ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษในการทำคดีซึ่งคดีนี้ก็กระทบต่อความมั่นคงต่อศาสนา ดังนั้นต้องหาวิธีการด้านกฎหมายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากคำพิพากษามาแล้วถ้าหากเราไม่ปฏิบัติเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องปฏิบัติหน้าที่   

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

พ.ต.ท.ศักดิ์สุธี คำมูล รอง ผกก.สภ.โพทะเล กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ทั้งภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง รวมถึงพยานหลักฐานตัวบุคคลที่ยืนยันการกระทำผิดของกลุ่มชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านที่ร่วมก่อเหตุ มีการสวมหน้ากากอนามัย และผ้าคลุม ปิดบังใบหน้า 

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

ทางด้าน นายสุเมธ เมธีพัฒนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ บาดเจ็บหลายสิบนาย และมีรถยนต์ราชการ  รถยนต์ชาวบ้านที่มาให้กำลังใจเจ้าอาวาส ได้รับความเสียหายซึ่งขณะนี้ทยอยแจ้งความแล้ว จากที่รวบรวมหลักฐานพบชาวบ้าน แกนนำที่ร่วมกันต่อต้านทำร้ายเจ้าหน้าที่ร่วม 37 ราย ซึ่งตอนนี้แจ้งความหมดแล้วอยู่ระหว่างให้ตำรวจทำคดีต่อไป 

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี
 

ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายอำเภอโพทะเล และกำลัง อส. ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์ภายในวัดบางคลาน โดยพบว่าภายในวัดบางคลานเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในวัดแต่อย่างใด มีเพียงกลุ่มบุคคลและชาวบ้านที่ยังอยู่ภายในวัดจำนวนกว่า 50 คน ทั้งชายและหญิง รวมทั้งบุคคลที่ศาลจังหวัดพิจิตรสั่งห้ามไม่ให้จำเลยและบริวารเข้าไปยุ่งเกี่ยวภายในวัด โดยขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเดินทางขึ้นไปบนวิหารหลวงพ่อเงิน เพื่อนมัสการกราบไหว้ มีกลุ่มชาวบ้านเข้ามา พร้อมต่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายอำเภอโพทะเล และกำลัง อส. ที่ได้เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ภายในวัดบางคลาน

ผู้ว่าฯ พิจิตร  ติดตามคดีวัดบางคลาน จ่อชงให้ DSI มาช่วยทำคดี

ทางด้าน นายสนอง เผ่าพันธุ์ ชาวบ้านที่อยู่ในวัด กล่าวว่า พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน มารักษาการอยู่ตั้งแต่ ปี 2557 ชาวบ้านเขาไม่เอา และไม่ยอมรับ ไม่โปร่งใส ชาวบ้านไม่ยอมรับมาตั้งแต่ปี 2557 ตอนนี้ปี 2566 อยู่ๆ ก็มาแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัด ทั้งที่มีความขัดแย้งกันอยู่แล้ว ซึ่งอยากถามว่าจังหวัดพิจิตรมีพระรูปเดียวใช่ไหมที่ไม่ใช่รูปนี้ขอให้ทางจังหวัด เอาพระรูปไหนก็ได้ลองเอามา ซึ่งถ้าเอาพระรูปอื่นมาเป็นเจ้าอาวาสก็อาจจะรับได้ และชาวจังหวัดพิจิตรเราก็ไม่ต้องเดือดร้อนไม่ต้องมาทะเลาะกัน