ส.ว. รณวริทธิ์ แจง งดออกเสียง ปม โหวตนายกฯ เขียนจดหมายถึงลูกหากเพื่อนๆเลิกคบ

ส.ว. รณวริทธิ์ แจง งดออกเสียง ปม โหวตนายกฯ เขียนจดหมายถึงลูกหากเพื่อนๆเลิกคบ

ส.ว. รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กเขียนจดหมายถึงลูก พร้อมชี้แจงกรณี "งดออกเสียง" นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกล ปมโหวตนายกรัฐมนตรี รอบแรก

ส.ว. รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา หรือ โพสต์เฟซบุ๊กเขียนจดหมายถึงลูก พร้อมชี้แจงกรณี "งดออกเสียง" นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกล ปมโหวตนายกฯ รอบแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา

ข้อความของ ส.ว. รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ถึงลูกมีเนื้อหาดังนี้

ถึงลูกรักของพ่อ และเพื่อนเพื่อนทุกคนของลูกตามที่ลูกมีความวิตกกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะโหวตกันในวันนี้ เพราะหากพ่อไม่เลือกคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ลูกจะโดนต่อต้านและเพื่อนๆจะเลิกคบกับลูก บางครั้งถึงอาจต้องมีเรื่องราวต่างๆนานาที่ไม่พึงประสงค์กับลูก ข้อนี้พ่อวิตกกังวลยิ่งนักเพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อ 

ลูกครับ บอกเพื่อนๆของลูก ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ไปเลยว่าพ่อเป็นนักเรียนทุนภูมิพลที่เรียนในระดับปริญญาตรี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เพราะหากไม่มีทุนภูมิพลในวันนั้นก็จะไม่มีพ่อในวันนี้ และก็จะไม่มีลูกเช่นเดียวกัน และพระมหากรุณาธิคุณอีกมากมายล้นพ้น ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประเทศชาติบ้านเมืองจนสุดที่พอจะบรรยายได้ ครอบครัวของพวกเราเทิดทูนองค์พระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้าผู้ใดจะแตะต้องมิได้

ดังนั้น หากคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลมีนโยบายไม่แตะต้อง มาตรา 112 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 แล้วพ่อก็ไม่มีข้อรังเกียจในตัวบุคคลและตัวพรรคที่จะไม่เลือกบุคคลดังกล่าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่หากตราบใดที่ที่บุคคลดังกล่าว พรรคดังกล่าวยังมีแนวนโยบายที่จะล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์โดยการยืนยันว่าจะแก้ไขหรือ ยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งก็เท่ากับเป็นการล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ พ่อไม่สามารถที่จะเลือกเขาเป็นนายกรัฐมนตรีได้

ลูกครับ หากเพื่อนลูกไม่เข้าใจในเหตุผลของครอบครัวเรา ไม่เข้าใจในเหตุผลของความเป็นเราความเป็นวุฒิสมาชิกของพ่อเค้าจะใช้วิธีการบีบบังคับหรือใช้วิธีการรุนแรงใดๆก็แล้วแต่ ก็แสดงว่าเค้าจะบังคับให้เราทำตามที่เขาต้องการแม้จะต้องล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของครอบครัวเรา แล้วก็จงอย่าได้แยแสและแคร์ที่จะรับเค้าเป็นเพื่อน

หากเพื่อนๆ เข้าใจในความเป็นเราและจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์และแผ่นดินเกิดแล้วจงนับเค้าเป็นกัลยาณมิตรเกื้อกูลไปจนตลอดชีวิตของลูกจะเป็นสิริมงคลต่อชีวิตยิ่ง

หากเขาเป็นนักประชาธิปไตยเค้าต้องยอมรับในความเห็นต่างและเคารพในความเป็นเพื่อนถ้าเค้าทำไม่ได้ก็เท่ากับเค้าเป็นโมฆะมิตร ให้ลูกจงจำไว้และยึดมั่นในองค์พระมหากษัตริย์ของเรา ลูกจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับไปทั่วเพราะความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี

พ่อขอให้กำลังใจกับลูกว่า อย่าได้ท้อแท้หรือท้อถอยกับอุปสรรคครั้งนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พระสยามเทวาธิราชจงปกป้องคุ้มครองครอบครัวเราให้ร่มเย็นเป็นสุข เราได้ทำดีที่สุดแล้ว พ่อขอยืนยัน

 

 

นอกจากนี้ ส.ว. รณวริทธิ์ ยังได้ชี้แจงกรณี "งดออกเสียง" ในการโหวตนายกฯ รอบแรกที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลประเด็น ม.112 ระบุว่า "เรียนพี่น้องชาวร้อยเอ็ด และชาวไทยทั่วประเทศ ผมชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า ผมจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหยิ่งในศักดิ์ศรีนักเรียนทุนภูมิพล และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน 

ผมไม่ได้มีปัญหากับคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมชื่นชอบนโยบายหลายข้อของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะด้านยาเสพติด และปราบปรามทุจริต ตลอดจนปลดล็อกสุราชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดและอุดมการณ์ของผม

ผมได้แจ้งเรื่องขอให้ยุติการก้าวล่วงมาตรา112 มาโดยตลอด และได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน" โดยส่วนรวมกระผมจึงได้ "งดออกเสียง" ครับ