วิเคราะห์ 2 ข้อสันนิษฐานเหตุการณ์ 'สะพานถล่มลาดกระบัง'

วิเคราะห์ 2 ข้อสันนิษฐานเหตุการณ์ 'สะพานถล่มลาดกระบัง'

นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย วิเคราะห์เหตุการณ์ "สะพานถล่มลาดกระบัง" ทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หน้าห้างฯโลตัส ถนนหลวงแพ่ง กรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย วิเคราะห์เหตุการณ์ "สะพานถล่มลาดกระบัง" ทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หน้าห้างฯโลตัส ถนนหลวงแพ่ง กรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย

โดยทาง ศ.ดร.อมร ได้เผยถึงเหตุการณ์สะพานถล่ม ลาดกระบัง เผยว่า ขณะนี้กำลังประมวลข้อมูลต่างๆเพื่อวิเคราะห์ข้อสันนิษฐานของการพังถล่ม และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด จะต้องรอการตรวจสอบเชิงลึกเสียก่อน

ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จุดตั้งต้นของการวิเคราะห์จะต้องระบุลำดับของการพังถล่มว่าเริ่มขึ้นจากจุดใดก่อน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี

1.เครนก่อสร้างร่วงลงมาแล้วทำให้สะพานถล่มตามมา

2.สะพานถล่มแล้วทำให้เครนก่อสร้างร่วงลงมา

ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นแบบไหน เนื่องจากการวิบัติของสะพานลักษณะนี้มักจะมีจุดเริ่มที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วลุกลามไปสู่จุดอื่นคล้ายๆการล้มตามกันของแท่งโดมิโน 

จากการวิเคราะห์ระบุว่า เครนล้มลงมาก่อนก็จะไปนำสู่การประเมินสาเหตุของการใช้งานเครน การติดตั้ง ยึดรั้งเครนกับโครงสร้าง ตลอดจนการเคลื่อนที่ของเครน เพราะเครนก่อสร้างเป็นโครงสร้างเหล็กที่มีความสูงและบาง ก็อาจเสียสมดุลและล้มได้ง่ายหากยึดรั้งไม่ดีพอ 

แต่หากผลการวิเคราะห์ระบุว่าโครงสร้างสะพานเริ่มพังก่อน จากนั้นทำให้เครนสูญเสียการรองรับ ก็อาจทำให้เครนล้มลงได้เช่นกัน หากเป็นกรณีหลัง ก็ต้องไปดูว่าสาเหตุที่ทำสะพานพังก่อนเกิดขึ้นจากขั้นตอนใด เช่น ขั้นตอนของการดึงลวดอัดแรงหรือจากสาเหตุอื่น

การวิเคราะห์สาเหตุในเชิงลึกจะต้องตรวจสอบ แบบก่อสร้าง รายละเอียดการออกแบบ การคำนวณระหว่างการก่อสร้าง ขั้นตอนการทำงาน (Method statement) ตลอดจนคุณภาพวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง จึงจะระบุสาเหตุที่แท้จริงได้

การก่อสร้างโครงสร้างสะพานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในเขตชุมชน เป็นงานที่อันตรายและมีความเสี่ยงมาก แต่ก็มีหลักปฏิบัติทางวิศวกรรมที่ครอบคลุมอยู่แล้ว แม้กระนั้นก็ยังเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง

ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงการมาตรฐานการทำงาน กำกับดูแล และการควบคุมการก่อสร้างว่ามีการบังคับใช้อย่างจริงจังแค่ไหน ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ วิศวกร ที่ปรึกษา ตลอดจนถึงหน่วยงานเจ้าของโครงการ จะต้องดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามหลักและขั้นตอนทางวิศวกรรมอย่างเคร่งครัด และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรกสุด

อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการต่อไป จะต้องหาสาเหตุที่แท้จริงของการพังถล่มให้ได้เสียก่อน และผู้รับจ้างจะต้องนำเสนอวิธีการและมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก จึงจะให้ก่อสร้างต่อได้ และควรกำหนดให้มีการสุ่มตรวจสอบการก่อสร้างอิสระ

ซึ่งอาจจะมาจากสมาคมวิชาชีพที่เป็นกลาง หรือ ทางภาครัฐ เข้าร่วมสุ่มตรวจสอบงานก่อสร้าง อีกทั้งควรกำหนดมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น ไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมการก่อสร้างที่เสี่ยงอันตราย ในช่วงเวลาที่ประชาชนใช้ถนนอย่างหนาแน่น หรือให้ปิดการจราจรชั่วคราว และการกำหนดแผงกั้นพื้นที่ก่อสร้าง มิให้เศษวัสดุ หรือสิ่งของต่างๆ หลุดร่วงไปที่ผิวจราจร