"ชาวบางคลาน"ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ ค้านผู้ว่าฯพาเจ้าอาวาสกลับวัด

"ชาวบางคลาน"ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ ค้านผู้ว่าฯพาเจ้าอาวาสกลับวัด

ชาวบางคลาน ยื่นหนังสือถึงศููนย์ดำรงธรรม จังหวัด ค้านผู้ว่าฯไม่ให้ใช้กำลังพาเจ้าอาวาสที่ชาวบ้านมีมติไล่พ้นวัดไปแล้วข้ามาในเขตวัดอีก พร้อมเปิดหลักฐานเป็นโพยแบ่งเงินจากการจำหน่ายพระหลายรุ่นเข้ากระเป๋า วอน”บิ๊กโจ๊ก” - "พระผู้ใหญ่"ลงมาตรวจสอบทรัพย์สินโดยด่วน

เมื่อช่วงสาย วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลาง จ.พิจิตร ชาว ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ร่วมกับองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน มี นางสาวสุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรฯได้ยื่นหนังสือถึง นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผวจ.พิจิตร ผ่าน ศูนย์ดำรงธรรม จ.พิจิตร เรื่องขอให้ระงับการนำกำลังเจ้าหน้าที่นำพระครูพิสุทธิวรากร และไวยาวัจกร เข้าวัดหิรัญญาราม(บางคลาน) โดยมีรายละเอียดว่าก่อนหน้าทางองค์กรฯได้ทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระราชสิทธิเวที  เจ้าคณะ จ.พิจิตร โดยได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208   เนื่องจากมีข้อมูลพบว่าเสพเมถุนกับสีกา 2 คนมีบุตร 2 คน ตั้งแต่ปี 2551 และปี 2562 เป็นครุกาบัติ อาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุตั้งแต่ปี 2551

 

หากปล่อยไว้เนิ่นนานไม่ดำเนินการจะทำให้พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติเสื่อมเสียไปด้วย และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผวจ.พิจิตรได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจะนำพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลานและบริวารเข้าวัด เพื่ออยู่จำพรรษา โดยวางแผนสนธิกำลัง  อส. ตำรวจ และทหาร ผลักดันชาวบ้านที่อยู่ดูแลกุฏิอดีตเจ้าอาวาส ให้พ้นไปจากวัดภายในเร็ว

ซึ่งชาว ต.บางคลานและองค์กรชุมชนวัดรักษ์บางคลาน ขอให้ ผวจ.พิจิตรและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทบทวนและหยุดการกระทำดังกล่าว เพราะชาว ต.บางคลาน ไม่ยอมรับการแต่งตั้ง พระครูพิสุทธิวรากร มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางคลานมาตั้งแต่แรก เพราะขบวนการการแต่งตั้งมาโดยมิชอบ  มีหลักฐานมากมายที่ทางองค์กรฯได้ยื่นร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับรัฐบาลและ ผวจ.พิจิตร

 

เมื่อเร็วๆนี้ ประชาชน ต.บางคลาน ได้ทำประชามติไล่ เจ้าอาวาสวัดบางคลานออกจากวัดเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว เพราะเจ้าอาวาสทำตัวเป็นปรปักษ์กับชาวบ้านโดยมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรคนสนิทไปจ้างทนายฟ้องร้องชาวบ้านนับร้อยคดี ล่าสุดก็ยังไม่หยุดสร้างความขัดแย้ง ไม่กี่วันที่ผ่านมายังไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.โพทะเลในข้อหาบุกรุกวัดกับชาวบ้านที่มานอนเฝ้ากุฏิอดีตเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วอีกหลายคดี เพิ่มความโกรธแค้นให้กับชาวบ้านเป็นการสุมไฟสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น หากวันใดที่ทาง ผวจ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำพระครูพิสุทธิวรากร และไวยาวัจกรเข้าไปในวัดโดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ฝ่ายชาวบ้านที่ต่อต้านจะขอปกป้องวัดบางคลานด้วยชีวิตไม่ให้ พระครูพิสุทธิวรากรและไวยากรวัจกรที่ชาวบ้านลงมติขับไล่ไปแล้วเข้ามากอบโกยหาผลประโยชน์จากวัดบางคลานอีกต่อไป  ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลานยังเปิดเผยหลักฐานเป็นโพยการแบ่งผลโยชน์จากการจองและจำหน่ายพระหลวงพ่อเงินหลายรุ่นของวัดบางคลาน เป็นเงินเกือบ 3 ล้านบาท ให้กับขบวนการเกาะกินวัด

 

โดยหลักฐานชิ้นดังกล่าวมีพลเมืองดีส่งมาให้ทางองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลานเพราะทนเห็นพวกขบวนการเปรตมาเกาะกินผลประโยชน์จากวัดบางคลานมาเกือบ 10 ปีแล้ว และทางองค์กรฯยังมีหลักฐานอีกหลายชิ้นที่มัดตัวคนเลวพวกนี้ และกำลังรวบรวมเป็นหลักฐานเอาผิดกับขบวนการเกาะกินวัดบางคลานต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากที่ชาวบ้าน ต.บางคลานและองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน ยื่นหนังสือถึง ผวจ.พิจิตร แล้วได้เดินทางไปยื่นเดินทางไปหนังสือขอให้ระงับการใช้กำลังพาพระครูพิสุทธิวรากร เข้าไปในวัดบางคลานให้กับ พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.พิจิตร  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร   นายอำเภอโพทะเลและ ผกก.สภ.โพทะเล อีกด้วย