ผู้เสียหายร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกหนุ่มแสบหลอกดาวน์รถป้ายแดง เสียหายกว่า 50 ล้าน

ผู้เสียหายร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกหนุ่มแสบหลอกดาวน์รถป้ายแดง เสียหายกว่า 50 ล้าน

'ทนายรณณรงค์' พากลุ่มผู้เสียหายร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ช่วยเร่งรัดคดี 'หนุ่มแสบ' หลอกให้รักแล้วลวงดาวน์รถป้ายแดงหลายคัน เสียหายกว่า 50 ล้านบาท

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ทนายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พากลุ่มหญิงสาวซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้รัก เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ 'บิ๊กโจ๊ก' รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดีที่ถูก นายจิรากร (สงวนนามสกุล) หรือใช้ชื่อปลอมว่า 'เต้ อาคม' อายุ 39 ปี หลังมาหลอกคบหาเป็นแฟน ก่อนหลอกให้ 'ดาวน์รถ' ป้ายแดงคนละหลายคัน ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบฯไว้แล้ว

 

 

ทันทีที่ได้เจอกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กลุ่มผู้เสียหายได้เดินเข้าหาและก้มกราบ 'บิ๊กโจ๊ก' ในทันที พร้อมกับบอกว่า ช่วยเหลือพวกเราด้วยเพราะได้รับความเดือดร้อนจากผู้ชายคนนี้ ทั้งนี้ยังมีหนึ่งในผู้เสียหายบางรายที่แม่เครียดจนถึงขั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว

 

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนจะไปไล่เรียงติดตามกับโรงพักเจ้าของพื้นที่ให้ พร้อมฝากเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันการหลอกลวงในรูปแบบของการให้จำนำรถ เช่าซื้อรถ โดยเข้าหาเชิงชู้สาวนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้จะสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาและยึดทรัพย์มาคืนได้ แต่กระบวนการทั้งหมดก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอกได้

 

ผู้เสียหายร้อง \'บิ๊กโจ๊ก\' ถูกหนุ่มแสบหลอกดาวน์รถป้ายแดง เสียหายกว่า 50 ล้าน

 

 

ทางด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ ยังมีผู้เสียหายทยอยติดต่อมาเรื่อย ๆ วันนี้มีผู้เสียหายรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย จึงต้องการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยติดตามความคืบหน้าคดี นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่า รถจำนวนกว่า 50 คันที่นายจิรากร (ผู้ต้องหา) นำไปขายตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ยังตามไม่เจอ หรืออาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงอยากให้ขยายผลในเรื่องนี้ด้วย ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคม

 

พยาบาลสาววัย 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหายจาก จ.ขอนแก่น เล่าให้ฟังว่า ตนกับผู้ต้องหารู้จักกันผ่าน Facebook Dating ผู้ต้องหาอ้างว่าทำอาชีพการงานมั่นคง มีวิธีการเข้าหาพูดคุยด้วยการใช้สายงานสาธารณสุข รู้ภาษาทางการแพทย์ มีความรู้ด้านการใช้ยา การดูแลผู้ป่วย จึงทำให้ตนเชื่อสนิทใจและตัดสินใจคบหา จนไว้ใจร่วมลงทุนตามที่ถูกชักชวน ในระยะเวลา 2 ปี ตนออกบิ๊กไบค์ 1 คัน รถยนต์ 1 คัน และนายจิรากรมาขอยืมเงินสดอีก 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 5.9 ล้านบาท

 

ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายซึ่งเป็นพยาบาลวัย 33 ปี จาก จ.ขอนแก่น เช่นเดียวกัน บอกว่า ตนโดนหลอกและถูกเข้าหาในลักษณะเดียวกัน โดยผู้ต้องหาบอกว่ามีปัญหากับเพื่อนที่ทำธุรกิจรถเช่าอยู่ด้วยกัน จึงอยากแยกออกมาทำเอง และต้องการทำร่วมกับตนเป็นธุรกิจครอบครัว ปัจจุบันตนถูกไฟแนนซ์ทวงเงินจากการออกรถยนต์ 6 คัน รวมมูลค่า 6.9 ล้านบาท

 

ส่วนผู้เสียหายอีกรายวัย 21 ปี เล่าว่า กรณีของตนไม่ได้ถูกเข้าหาในเชิงชู้สาว แต่มีการพูดคุยผ่านเพื่อน โดยนายจิรากร (ผู้ต้องหา) อ้างว่าเป็นตำรวจ ปส. มีการทำธุรกิจรถเช่า ชักชวนตนให้ออกบิ๊กไบค์ และรถกระบะอีก 1 คัน รวมมูลค่า 2 ล้านบาท