บิ๊กโจ๊ก ลั่นถ้าลูกน้องทำผิด ให้ออกราชการทันที คดีผู้การชลบุรีรีด 140 ล้าน

บิ๊กโจ๊ก ลั่นถ้าลูกน้องทำผิด ให้ออกราชการทันที คดีผู้การชลบุรีรีด 140 ล้าน

“บิ๊กโจ๊ก” เผยจับพลเรือนเอี่ยวคดีรีดทรัพย์ 140 ล้านบาทเพิ่ม 1 ราย เร่งขยายผล หลังทราบเส้นทางการเงินทั้งหมดแล้ว คาดสัปดาห์รู้ผล ยันไม่ฟ้องกลับ หากพบลูกน้องตัวเองทำผิด จะไม่ปกป้อง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ความคืบหน้าคดี อดีตผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี หรือ ผู้การชลบุรี เรียกเงินเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือ บิ๊กโจ๊ก เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพลเรือนได้เพิ่ม 1 ราย เป็นชุดเดียวกันกับ นางสาวโบว์ ที่ถูกตำรวจ สภ.คูคต ควบคุมตัวไปเมื่อวานนี้ 

โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องในคดีเกี่ยวกับเรื่องของเงิน ขณะนี้ทราบเส้นทางการเงินทั้งหมดแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนวงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน โดยอ้างว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง ได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ รวมทั้งมีการร้องเรียนว่า เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์นั้น 

“ยืนยันว่า ตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชา จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด หากพบพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน” รอง ผบ.ตร. ระบุย้ำ

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้มองว่า นายอัจฉริยะเป็นคู่ขัดแย้ง แต่มองว่า เป็นเรื่องของการตรวจสอบการทำงานของตำรวจในยุคปัจจุบัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจตรวจสอบตำรวจ หากมีการตรวจสอบการทำหน้าที่ ก็สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องร้องกลับ นายอัจฉริยะแน่นอน

ส่วนการตรวจสอบการทำหน้าที่ของชุดปฏิบัติการที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้อง ไม่มีการข่มขู่ หรือกระทำการใด ที่เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติอุ้มหาย ในการจับกุมผู้ต้องหานั้น ก็เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น นายอัจฉริยะ ก็ได้โทรศัพท์หาตนเอง และแจ้งว่า จะขอประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งตนเองก็อนุญาตให้ประกันตัวตามปกติ