สั่ง ผู้ว่าฯ 5 จังหวัด ติดตามเหตุแผ่นดินไหวพิษณุโลก เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวบริเวณตำบลไผ่ล้อม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ที่ละติจูด 16.558 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.368 องศาตะวันออกขนาด 4.5 ความลึก 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา 00.17 น. โดยได้รับรายงานความรู้สึกสั่นไหวบริเวณจังหวัดพิษณุโลกและพื้นที่ใกล้เคียง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และจังหวัดเพชรบูรณ์  

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว พบว่าพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ได้รับความรู้สึกสั่นไหว อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก จึงแจ้งให้จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อลดความตื่นตระหนก รวมถึงประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติเพื่อสร้างความปลอดภัย และสั่งการหน่วยงานราชการ เร่งสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่ทางราชการกำหนด พร้อมกับให้รายงานสถานการณ์และผลการดำเนินการของแต่ละจังหวัด ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง

 

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้รับรายงานความคืบหน้าจาก กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดจากแผ่นดินไหว และลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากกรณีแผ่นดินไหวในอำเภอบางกระทุ่ม โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 1) โรงเรียนบางกระทุ่ม อาคารมีรอยร้าวเล็กน้อย ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างจำนวน 3 อาคาร 11 จุด 2) ศาลาการเปรียญวัดประชาราม หมู่ที่ 8 ตำบลวัดตายม ลักษณะความเสียหายกระเบื้องหลังคาศาลาการเปรียญหลุดและแตกร้าวประมาณ 24 แผ่น และ 3) บ้านเรือนประชาชน จำนวน 4 ตำบล คือ ตำบลท่าตาล ตำบลเนินกุ่ม ตำบลวัดตายม และตำบลไผ่ล้อม 11 หมู่บ้าน รวม 22 หลังคาเรือน และนอกจากนี้ที่จังหวัดพิจิตร พบอาคาร/บ้านเรือนเกิดการแตกร้าว ในพื้นที่ 3 ตำบล อำเภอเมืองพิจิตร ประกอบด้วย 1) ตำบลท่าฬ่อ พบบ้านเรือนมีรอยแตกร้าว ในพื้นที่หมู่ที่ 2, 5, 6 และ 7 ได้รับผลกระทบจำนวน 14 หลังคาเรือน 2) ตำบลปากทางในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 1 หลังคาเรือน โบสถ์เก่า (วัดราชช้างขวัญ) มีรอยแตกร้าว และโรงแรมไอยรา ถังกรองน้ำล้ม 1 ถัง ทับท่อประปาแตก 3) ตำบลย่านยาว ในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 1 หลังคาเรือน

"ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว และรายงานผลเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จิตอาสาภัยพิบัติ ให้ความรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติตน และขยายผลการสร้างการรับรู้ผ่านหอกระจายข่าว และเครือข่าย อปพร. ในพื้นที่ ให้พี่น้องประชาชนทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการป้องกันอันตรายในขณะเกิดแผ่นดินไหว และไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และติดตามข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังการประเมินเชิงโครงสร้างอาคารสูง อาคารที่มีผู้ใช้งานมาก เช่น ตลาด โรงเรียน และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า  จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมทรัพยากรธรณี ได้รายงานสาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน (Hidden Fault) ซึ่งรอยเลื่อนนี้อยู่นอกเหนือจาก 16 กลุ่มรอยเลื่อนมีพลังที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อนในรอบ 100 ปี ถือเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้นมาก โดยแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เลย เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ สามารถรับรู้ได้ทั่วไป ซึ่งการรับรู้ดังกล่าวอยู่ในความรุนแรงของแผ่นดินไหวระดับ 4-5 (เบา-ปานกลาง) ตามมาตราเมอร์คัลลี ที่คนส่วนใหญ่รับรู้ได้ ไม่ส่งผลกระทบถึงขั้นสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างหลักของสิ่งก่อสร้าง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป”