จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา

จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา

จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา เจ้าตัวรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566  ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สถานีตำรวจภูธรภูเพียง พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แถลงผลการจับกุม น.ส.นภาพร หรือ แบม นามสมมุติ ชาวอำเภอเวียงสา อายุ 20 ปี ในข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปซึ่งเด็กอายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม” หลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้หลังกบดานอยู่ในกรุงเทพและกลับมาบ้านที่จังหวัดน่านคาดหาเหยื่อเพิ่มเติม ได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดน่าน เมื่อเวลา 04.30 น.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มี นางสาวนี นามสมมุติ อายุ 34 ปี ได้เข้ามาแจ้งความขอความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรงอบ ว่า น.ส.บี นามสมมุติ ชาวอำเภอทุ่งช้าง วัย 17 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของตน ได้โทรศัพท์มาหายายเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 มิถุนายน 2566 โดยขอความช่วยเหลือหลังถูกหลอกบังคับให้ไปค้าประเวณีให้ชาวจีนจนป่วยหนักจนถูกหามเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดได้พัก 2 วัน ก็ถูกบังคับข้ามฝั่งไปค้ากามสนองความใคร่ให้ผีพนันชาวจีนต่อ ที่บ่อนคาสิโน ท่าข้าม KK3 เมียวดี ฝั่งเมียนมา 

จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา
 

โดยเล่าว่าตนกับกลุ่มเพื่อนๆ 4 คน รวม น.ส.แบม ผู้ต้องหา วัย 20 ปี ได้ทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง น.ส.แบม ได้ชักชวนไปทำงานที่บ่อนคาสิโน ท่าข้าม KK3 เมียวดี ฝั่งเมียนมา ว่าเป็นงานชงเหล้าให้แขกในบ่อน รายได้ดี พวกตนประกอบด้วย น.ส.เอ นามสมมุติ วัย 16 ปี ชาวอำเภอบ้านหลวง น.ส.บี นามสมมุติ วัย 17 ปี ชาวอำเภอทุ่งช้าง และ น.ส.ซี นามสมมุติ วัย 19 ปี ชาวอำเภอเชียงกลาง น.ส.แบม ยังบอกว่าเดินทางไปฟรี มีที่พักฟรี อยากกลับตอนไหนก็ได้

โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา น.ส.เอ นามสมมุติ ชาวอำเภอบ้านหลวง วัย 16 ปี ได้เดินทางไปก่อนมี น.ส.แบม เป็นคนนั่งรถโดยสารจากจังหวัดน่านไปส่งที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นวันที่ 15 เมษายน 2566 น.ส.บี และ น.ส.ซี ได้ติดต่อไปที่ น.ส.แบมว่าจะไปทำงานที่บ่อนคาสิโนตามที่เคยชักชวนไว้ และนัดวันเดินทาง จากนั้นช่วงเช้า ของวันที่ 20 เมษายน 2566 น.ส.บี วัย 17 ปี น.ส.ซี วัย 19 ปี ได้โดยสารรถทัวร์ไปลงที่สถานีขนส่งจังหวัดพิษณุโลกช่วงเย็น แต่รถไปอำเภอแม่สอดจะมีรถมาในช่วงเวลา 02.00 น. จึงนั่งรออยู่ที่สถานีขนส่ง จนถึงเวลาจึงขึ้นรถต่อไปลงที่สถานีขนส่งแม่สอดจังหวัดตากเมื่อเช้ามืดของวันที่ 21 เมษายน 2566 และที่สถานีขนส่งอำเภอแม่สอดมีผู้ชายใสแมซใส่หมวกขับรถกระบะสี่ประตูมารับและขับไปส่งที่ชายแดนไทย-เมียนมา และมีชายฉกรรจ์ไม่ทราบชื่อมาพาข้ามแดนแบบผิดกฏหมายทางช่องทางธรรมชาติ โดยพาไปส่งให้นางแก้ว ที่บ่อนคาสิโน

จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา
 

ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2566 ถูกนางแก้ว และกลุ่มชายฉกรรจ์บังคับให้ขายบริการทางเพศให้กับผีพนันหื่นชาวจีน ลูกค้าบ่อนคาสิโนโดยรับแขกวันหนึ่งกว่า 10 คน เป็นเวลา 1 เดือน โดยไม่ได้รับเงิน อ้างว่าเป็นค่าเดือนทางและที่พัก จากนั้นวันที่ 23 เมษายน 2566 ไม่พบเจอ น.ส.ซี วัย 19 ปี ชาวอำเภอเชียงกลาง นางแก้ว ผู้ดูแลที่แจ้งว่าส่ง น.ส.ซี กลับไทยไปแล้ว น.ส.บี วัย 19 ปี บอกว่าต้องทนทุกข์รับจีนผีพนันหื่นวันละกว่า 10 คน จนครบ 1 เดือน นรกในชีวิตยังไม่จบ วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ถูกบังคับส่งไปขายบริการทางเพศไปยังอีกอาคารหนึ่ง ถูกบังคับให้รับแขกหื่นวันละไม่ต่ำกว่า 10 คน จนทนไม่ไหวหาทางกลับไทยแต่ก็มืดมนมองหาทางไม่เห็น ถูกบังคับให้ค้าประเวณีร่วมหลับนอนกับแขกชาวจีนไม่ต่ำกว่าวันละ 10 คน จนล้มป่วย จนถูกส่งข้ามจากฝั่งเมียนมา ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลแม่สอด ต่อเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 มี น.ส.เอ ชาวอำเภอบ้านหลวง วัย 16 ปี ข้ามฝั่งมาด้วยกัน แต่ก็มีชายฉกรรจ์คอยประกบอยู่ห่างๆ หลังตรวจรักษาแล้วไม่ได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด สถานที่ที่กลุ่มชายฉกรรจ์นั้นจัดไว้ 2 คืน โดยไม่ได้ออกไปไหน

จับเพื่อนสาวแสบ ลวงค้าประเวณีบ่อนเมียนมา

จากนั้น วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ช่วงบ่าย มีชายฉกรรจ์ขับรถกระบะสี่ประตูมาพาทั้งสองคนไปส่งข้ามไปบ่อนคาสิโนทางช่องทางธรรมชาติ และถูกไปบังคับขายบริการทางเพศให้กับกลุ่มชาวจีนวันละนับ 10 คน เช่นเดิมที่เดิมจนเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 น.ส.บี ชาวอำเภอทุ่งช้าง วัย 17 ปี ทนทรมานไม่ไหว แอบใช้โทรศัพท์โทรไปหายายที่อยู่ที่จังหวัดน่าน ขอยืมเงินยายเพื่อมาไถ่ตัวที่กลุ่มนางแก้วและชายฉกรรจ์อ้างว่าเป็นค่าเดินทางและค่ากินค่าอยู่แบบทุกข์ทรมาน เพราะอยากจะกลับบ้านที่ไทย

จากนั้นวันที่ 20 มิถุนายน 2566 น.ส.นี นามสมมุติ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรงอบ ให้ช่วยเหลือ น.ส.บี วัย 17 ปีบุตรสาวของตนที่ถูกหลอกให้ไปขายบริการที่บ่อนกาสิโน เมียวดี ฝั่งเมียนมา หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรภูเพียง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กรมทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร ได้ร่วมกันวางแผนการให้การช่วยเหลือในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 โดยให้สายลับทำทีเป็นนักพนันเข้าไปใช้บริการ และทำการแกล้งซื้อบริการทางเพศแบบค้างคืนในราคา 5,000 บาท โดยอ้างว่าจะไปใช้บริการทางเพศ น.ส.บี วัย 17 ปี ที่ห้องพักในโรงแรมที่เปิดไว้ แล้วพา น.ส.บี วัย 17 ปี พามาส่งให้ เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กรมทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร ที่วางกำลังรออยู่แนวชายแดนฝั่งไทย ช่วยเหลือส่งถึงอ้อมกอดพ่อกับแม่ น.ส.บี วัย 17 ปี ที่รอคอยและลุ้นระทึกกับปฏิบัติการการให้การช่วยเหลือในครั้งนี้

จนเวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กรมทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร สามารถช่วยเหลือ น.ส.บี วัย 17 ปี กลับสู่ประเทศไทยด้วยความปลอดภัย จากนั้นได้เดินทางกลับสู่จังหวัดน่าน และเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรภูเพียงท้องที่เกิดเหตุ โดยมีพยานหลักฐานสามารถระบุตัวว่า น.ส.นภาพร หรือแบมนามสมมุติ วัย 20 ปี เป็นผู้ล่อลวงให้ น.ส.บี วัย 17 ปี ไปบังคับค้าประเวณีที่บ่อนคาสิโน เมียวดี ฝั่งเมียนมา จนศาลจังหวัดน่านอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566

จากการสืบสวนพบว่า น.ส.นภาพร หรือแบม นามสมมุติ ทำงานอยู่ร้านอาหารในกรุงเทพ และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปดักรออยู่ที่ สถานีขนส่งจังหวัดน่าน จนเวลา 04.30 น. น.ส.แบม ได้เดินทางโดยสารมากับรถทัวร์มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้น น.ส.แบม นามสมมุติ ให้การรับสารภาพ ว่าได้ค่าหัวในการจัดหา น.ส.บี วัย 17 ปี และ น.ส.เอ วัย 16 ปี ในการไปขายบริการทางเพศที่บ่อนคาสิโน เมียวดี ฝั่งเมียนมา และยังได้ส่วนแบ่งจากการมีชาวจีนในบ่อนซื้อบริการทางเพศ หญิงสาวทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว น.ส.นภาพร หรือแบม นามสมมุติ นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูเพียง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป