หดหู่ใจ 'ดร.ธรณ์' เตือนโลกร้อนคือหายนะ ชี้ความวิบัติเกิดขึ้นแล้วในทะเลไทย

หดหู่ใจ 'ดร.ธรณ์' เตือนโลกร้อนคือหายนะ ชี้ความวิบัติเกิดขึ้นแล้วในทะเลไทย

สุดสะเทือนใจ 'ดร.ธรณ์' เตือน 'โลกร้อนคือหายนะ' ชี้ความวิบัติเกิดขึ้นแล้วในทะเลไทย หลังสำรวจพบ ปะการัง - หอยมือเสือทยอยตาย

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Thon Thamrongnawasawat' เผยให้เห็นถึงผลกระทบจาก 'ภาวะโลกร้อน' โดยระบุว่า

 

ปิดฉากทริประยองด้วยแนวปะการังแห่งความทรงจำ ผมเป็นคนร่วมสำรวจที่นี่ตั้งแต่เป็นนิสิตเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน สมัยเป็นอาจารย์หมาดๆ ก็พาลูกศิษย์มาเรียน 'ปะการัง' หลายปีต่อเนื่อง

 

 

ปะการังที่นี่สมบูรณ์ตามธรรมชาติ พบตั้งแต่ที่ตื้นริมฝั่งไปจนถึงขอบต่อเนื่องลงที่ลึก 7-8 เมตร เป็นตัวอย่างชั้นยอดของแนวปะการังระยอง ยังเป็นจุดที่มี 'หอยมือเสือ' มากมายเหลือเกิน เป็นพันๆ จนนักวิจัยสมัยนั้นรู้จักดี เนื่องจากอยู่ในเขตอนุรักษ์และไม่มีชาวบ้านบนเกาะ แต่มีสถานีและเจ้าหน้าที่ดูแล แนวปะการังจึงไม่มีผลกระทบอื่นใด ไม่มีนักท่องเที่ยวดำน้ำ ไม่มีคนจับปลา จึงเป็นสถานีศึกษาชั้นยอดสำหรับการติดตามระยะยาว

 

ปะการังก็อยู่ยาวๆ มาจนถึง 4 ปีก่อน บริเวณที่เพื่อนธรณ์เห็นเคยมีปะการังปกคลุมพื้นที่กว่า 45% จากนั้นน้ำก็ร้อน 'ปะการังฟอกขาว' บางส่วนตาย น้ำร้อนอีกและร้อนอีก ร้อนทุกปี ปะการังที่เหลือก็ตายและตาย

 

มาถึงบัดนี้ สายวัดที่เราวางไป ทอดยาวทับปะการังตายกับตาย ที่มีชีวิตเหลืออยู่ไม่ถึง 5% และพวกเธอก็กำลังฟอกขาว... มองไปรอบๆ มันเป็นเหมือนกัน มีแต่ความตายทุกหนแห่ง

 

 

ผมเคยเห็นแนวปะการังโดนระเบิดปลา เคยสำรวจแนวปะการังที่พังทลายเพราะการท่องเที่ยวมาไม่รู้กี่สิบที่ เคยเห็นโน่นนี่มาหมดแล้ว แต่ผมไม่เคยเห็นความตายเยี่ยงนี้ จากปีแรกที่ปะการังฟอกขาว ใจภาวนาหวังว่าจะฟื้น มาปีสองคำภาวนาไม่เป็นผล มาปีนี้ทุกอย่างมาถึงขั้นหมดอาลัยตายอยาก เป็นทริปสำรวจที่หดหู่จนอยากร้องไห้

 

มองไปรอบด้าน ผมไม่เห็นต้นเหตุใดๆ ที่ทำให้พวกเธอตายพร้อมกัน มองไปบนฟ้าผมก็มองไม่เห็น แต่ทราบดีว่ามันอยู่ที่นั่น - ก๊าซเรือนกระจก มันจึงเป็นความตายที่แทบไร้ทางแก้ เป็นกองเชือกยุ่งเหยิงพันกันจนหาปมไม่เจอ

 

อยู่ในเขตอนุรักษ์ ไม่มีการประมง ไม่มีการท่องเที่ยว ไม่มีน้ำเสีย ไม่มีขยะ แต่ 'ปะการัง' ตายหมดแล้ว แล้วหอยมือเสือล่ะ? หอยมือเสือตายเกือบหมด เหลืออยู่น้อยกว่าเดิมไม่รู้กี่สิบเท่า

 

งานวิจัยที่โหดร้ายที่สุด คืองานสำรวจวิจัยในสถานที่แห่งความทรงจำ จุดสำรวจที่ผูกพันยาวนานค่อนชีวิต ก่อนสุดท้ายจบลงด้วยสภาพคล้ายสุสาน มันโหดร้ายต่อใจมากเลยครับ

 

จึงนำเรื่องนี้มาบอกเพื่อนธรณ์ บอกว่า 'โลกร้อนคือหายนะ' บอกว่ามันเกิดแล้วในทะเลไทย และมันทำลายแทบทุกชีวิต

 

ประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องให้ความสำคัญกับ 'ผลจากโลกร้อน' ให้มากกว่านี้มากๆๆๆๆ ผมสงสาร 'หมีขาว' แต่ความวิบัติเกิดขึ้นแล้วในทะเลไทย...

 

หดหู่ใจ \'ดร.ธรณ์\' เตือนโลกร้อนคือหายนะ ชี้ความวิบัติเกิดขึ้นแล้วในทะเลไทย