'บิ๊กโจ๊ก' ถก กรมโรงงานอุตสาหกรรม คุมเข้ม 'ไซยาไนด์'

'บิ๊กโจ๊ก' ถก กรมโรงงานอุตสาหกรรม คุมเข้ม 'ไซยาไนด์'

"บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" หารือ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม คุมเข้มไซยาไนด์ หลังพบโรงงานต้นเหตุที่จำหน่ายต่อให้ "แอม" นำเข้ามา 1,600 ขวด ก่อนกระจายให้รายย่อย 6 แห่ง พบลอตนี้ถูกนำไปใช้ฆ่าคน 8-9 ราย

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าหารือกับ นายพรยศ กลั่นกรอง รองอธิบดีกรมโรงงาน เกี่ยวกับระเบียบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงมาตรการการควบคุมดูแลการนำเข้า ควบคุมและจำหน่ายสารไซยาไนด์ ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ สืบเนื่องจากกรณีที่นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ไปสั่งซื้อไซยาไนด์ออนไลน์มาก่อเหตุ ซึ่งการหารือในครั้งนี้ จะมาตรวจสอบข้อมูลว่ามีบริษัทหรือโรงงานใดที่สั่งสารดังกล่าวแล้วนำไปจำหน่าย รวมถึงจะมีการหารือถึงข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายความผิดอะไรบ้างในตัวของโรงงานที่นำไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลก่อนหน้านี้พบว่า การดำเนินงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีความหละหลวมอย่างมาก และพบช่องโหว่ทั้งในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตาม พ.ร.บ.ควบคุมวัตถุอันตราย

การหารือใช้เวลาหารือ ประมาณ 30 นาที ก่อนที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ จะลงมาให้สัมภาษณ์ ว่า ตอนนี้ทางตำรวจมีข้อมูลและหลักฐานที่เพียงพอในการดำเนินคดีกับโรงงานหรือบริษัทที่จำหน่าย ซึ่งตอนนี้พบเพียง 1 บริษัท ที่เป็นผู้นำสารเข้ามา แต่การจำหน่ายทางกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าห้ามนำไปจำหน่ายต่อ จึงทำให้มีโรงงานและบริษัทรายย่อยจำนวน 6 เจ้า มาซื้อสารดังกล่าวไปจำหน่ายต่อและทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้สาร คือ ใช้เพื่อการวิจัย และเพื่อกิจการโรงงานเท่านั้น

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่นำเข้ามา มีการจำหน่ายไปอย่างถูกต้อง จำนวน 1,600 ขวด และยังพบว่า 6 ผู้ค้ารายย่อยซื้อไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์จำนวนกว่า 100 ขวด ซึ่งในจำนวนนี้มีบางผู้ค้าบางคน จำหน่ายให้ แอม รวมถึงยังพบว่ามีจำหน่ายให้บุคคลทั่วไป เพื่อไปใช้ในการฆ่าตัวตายประมาณ 8-9 รายอีกด้วย

โดยหลังจากนี้ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปทำรายงานการสืบสวนแล้วส่งต่อกลับมาให้กรมโรงงานเพื่อให้นำไปร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้ค้ารายย่อย และโรงงานที่นำเข้า ที่ต้องรับผิดชอบในการจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์ ตามข้อหามีไว้ในครอบครอง และจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งตำรวจมีข้อมูลรายชื่อของผู้ค้ารายย่อยและบริษัทที่นำเข้าทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่คนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นตอนนี้ยังไม่สรุปได้ อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม