หมอเจตน์ โต้จ่อโหวต พิธา เป็นนายกฯ ตั้งเงื่อนไข 2 ข้อ ถ้าไม่ตกลงก็ไม่โหวตให้

หมอเจตน์ โต้จ่อโหวต พิธา เป็นนายกฯ ตั้งเงื่อนไข 2 ข้อ ถ้าไม่ตกลงก็ไม่โหวตให้

อย่ามั่ว! 'หมอเจตน์' โวยถูกผลักเลือกข้างโหวต 'พิธา' เป็นนายกฯ ตั้งเงื่อนไข 2 ข้อถ้าไม่ตกลงก็ไม่โหวตให้ ชี้หากยอมถอย 'ส.ว.' อาจสะดวกใจลงมติ

วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ หรือ 'หมอเจตน์' สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงกรณีกระแสกดดัน 'ส.ว.' ให้โหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า

 

ถูกมั่วผลักไปอยู่ข้างโหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยไม่มีข้อแม้ เพื่อกดดันให้เปลี่ยนมติไม่ได้ในวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ ทั้งที่ผมพูดเงื่อนไขชัดเจนว่า การตัดสินใจลงมติต้องรอจนถึงวันสุดท้าย เพราะยังมีเงื่อนไขระหว่างนี้อีกมาก

 

 

นพ.เจตน์ ระบุต่อว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. 95% จำนวน ส.ส.ในแต่ละพรรคยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะคุณสมบัติและการทำผิดกฎหมายของว่าที่ ส.ส. แต่ละท่าน คุณพิธายังมีคดีค้างอยู่ในมือ กกต.จะส่งให้ศาลฎีกาหรือศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้ หรือ พรรคก้าวไกล อาจรวมเสียง ส.ส.ได้มากจนสามารถปิดสวิตช์ ส.ว. ก็เป็นได้

 

ข้อสำคัญ ผมมีเงื่อนไขสองข้อ คือ ต้องไม่แตะมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งจะเป็นการสร้างความขัดแย้งในประเทศ และต้องไม่ยอมให้ขั้วอำนาจใดอำนาจหนึ่งสร้างฐานทัพในประเทศ อันจะเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ

 

 

พรรคก้าวไกล อาจยอมถอยเพื่อให้ได้ตำแหน่งนายกฯและอำนาจในการบริหารประเทศ ที่เป็นเป้าหมายสำคัญกว่าก็ได้ จะทำให้ ส.ว. สะดวกใจในการลงมติ หรือทำให้สามารถดึงพรรคใหญ่อื่นๆ เข้าร่วมได้โดยไม่ต้องพึ่ง ส.ว.

 

แม้จะยอมรับในชัยชนะของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หากถึงวันสุดท้าย ยังจำเป็นต้องพึ่งเสียง ส.ว. แต่ยังไม่แก้เงื่อนไขสองข้อของผม ผมไม่ได้โหวตให้ ก็อย่ามาว่ากัน