ตร. PCT จับกุมบัญชีม้า HYBRID SCAM หลอกให้รัก ชักชวนเทรดคริปโทฯ

ตร. PCT จับกุมบัญชีม้า HYBRID SCAM หลอกให้รัก ชักชวนเทรดคริปโทฯ

ตำรวจ PCT ชุดที่ 1 จับกุมบัญชีม้า HYBRID SCAM หลอกให้รัก ชักชวนเทรดคริปโทฯ พบหมายจับ 7 หมาย ความเสียหายมากกว่า 7 ล้านบาท

ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผบ.ตร. สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. /ผอ.ศปอส.ตร (PCT), พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. เร่งดำเนินการกวดขันจับกุม ขบวนการแก๊ง call center หรือการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่สร้างความ เดือดร้อนแก่สังคมไทย จึงได้สั่งการให้ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 1 นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม./ หน.ชป.ศปอส.ตร.ชุดที่ 1, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง  ผบก.สส.ภ.7 ปรก.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.นพรัตน์ จงเชิดชูตระกูล รอง ผกก.4 บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 1 (PCT) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. 

ทำการจับกุมตัว ผู้ต้องหา นางสาวดวงรักษ์ (ขอสงวนนามสกุลจริง) อายุ 38 ปี สัญชาติไทย  ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” 

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ชุดปฎิบัติการที่ 1 โดย พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า, ส.ต.ท.รดิศ สิทธิประศาสน์, ส.ต.ท.ชานนท์ บินกาซีเมน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.สส.สตม. ได้ทำการสืบสวนกรณีที่มีประชาชนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่านทางระบบแจ้งความออนไลน์และเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ว่าได้มีคนร้ายที่รู้จักกันผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ แล้วทำการชักชวนหลอกลงทุนคลิปโต ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายอยู่รายหลาย ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าการกระทำความผิดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนางสาวดวงรักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 107/2565 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2565

ตร. PCT จับกุมบัญชีม้า HYBRID SCAM หลอกให้รัก ชักชวนเทรดคริปโทฯ

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” จึงได้ทำการสืบสวนติดตามทราบว่านางสาวดวงรักษ์ฯ ได้หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณบ้านพัก ในซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการไปตรวจสอบและพบนางสาวดวงรักษ์ฯ จึงได้ทำการแสดงหมายจับและทำการแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบและจับกุมตัวเพื่อส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยทางผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ตนได้ทำการรับจ้างเปิดบัญชี จำนวน 2 บัญชี จำนวน 2,000 บาท โดยได้รับการติดต่อจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ได้ยินยอมและส่งมอบบัญชีธนาคาร ซิมมือถือที่ลงทะเบียนกับทางธนาคารให้ โดยทาง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง  
ผบช.สตม./หน.ชป.ศปอส.ตร.ชุดที่ 1 ได้เปิดเผยถึงพฤติการ์ณของคนร้ายว่าคนร้ายนั้นจะทำการปลอมตัวและแฝงตัวอยู่ในแอบพลิเคชั่นหาคู่ เช่น แอบพลิเคชั่น omi , ok cupid จากนั้นเมื่อได้ทำการพูดคุยตีสนิทกับผู้เสียหายไปสักพักหนึ่งแล้วจะให้ทางผู้เสียหายทำการเพิ่มเพื่อนใน FACEBOOK และพูดคุยผ่านทาง FACEBOOK เพื่อทำให้ผู้เสียหายตายใจ โดย FACEBOOK ที่มีการพูดคุยนั้นเป็นการใช้โปร์ไฟล์ปลอม และหลังจากนั้นจะขอให้ทำการแอด LINE เพื่อจะพูดคุยถึงการลงทุนเกี่ยวกับการเทรดคลิปโต หรือการลงทุนหุ้นต่างๆ

 และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการชักชวนผู้เสียหายให้ทำการสมัครสมาชิกสำหรับการเทรดคลิปโต ผ่านเว็บไซต์ WWW.Gxbfc036.cn, web.mitokenex.com, www.opttradap.vip หรือ http://wap.erxproap.vip/ERX ซึ่ง 
คนร้ายจะเริ่มทำการพูดคุยแนะนำเกี่ยวกับหุ้นคลิปโตที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเริ่มทำการโอนเงินเพื่อการลงทุนสำหรับเทรดไปยังบัญชีของคนร้ายที่แจ้งให้กับผู้เสียหาย โดยเว็บไซต์ที่ทางผู้เสียหายได้สมัครสมาชิกนั้นจะเป็นเว็บไซต์ปลอที่ถูกทางคนร้ายสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการหลอกผู้เสียหาย และเมื่อเข้าไปเทรดช่วงแรกจะมีการแจ้งว่าได้กำไรแต่จะยังไม่สามารถถอนเงินได้ โดยจะถูกชักชวนให้ลงทุนในการเทรดเพิ่มขึ้น ซึ่งหากผู้เสียหายต้องการจะถอนเงินออกจากระบบก็จะให้โอนเงินเพื่อชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าต่างๆ เพื่อจะทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและถูกหลอกให้โอนเงินต่อไป โดยจากการตรวจสอบจากระบบแจ้งความออนไลน์ ของ สตช. พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายราย และมีความเสียหายรวมกันมากกว่า 7 ล้านบาท และพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับอื่นอีก รวม 7 หมายจับ  

พล.ต.อ.รอยฯ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางโลกออนไลน์โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ การฉ้อโกง หรือการหลอกลงทุนต่าง รวมไปถึงแก๊งคอลเซนเตอร์โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยกวดขันจับกุมอย่างเด็ดขาดไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ จะดำเนินการตรวจสอบและขยายผลเส้นทางการเงินบัญชีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์เพื่อจะได้นำพยานหลักฐานมาดำเนินการกับกลุ่มคนร้ายต่อไปและขอแจ้งเตือนผู้ที่คิดจะกระทำความผิดเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์และเล่นพนันออนไลน์อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายประเทศ 
ไทย หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิดทางเทคโนโลยี การหลอกลวงออนไลน์ การพนันออนไลน์ หรือพฤติกรรมลักลอบกระทำผิดต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน ศูนย์ PCT 1441 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081 8663000 เฉพาะเวลาราชการ