อดีตสาวครูร้องโซเชียล-สื่อ 'บาทหลวง' คบซ้อนมีเมีย 2 ต้นสังกัดป้องไม่ผิด

อดีตสาวครูร้องโซเชียล-สื่อ 'บาทหลวง' คบซ้อนมีเมีย 2 ต้นสังกัดป้องไม่ผิด

อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ร้องตรวจสอบ "บาทหลวง" ผจก.โรงเรียน หลังมีสัมพันธ์ซ้อน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เรียกร้องให้พ้นจากการการเป็นนักบวช

เพจดังโพสต์ตรวจสอบ หลังแฟนเพจหลังร้องเรียนว่ามีสัมพันธ์กับนักบวชคาทอลิกรูปหนึ่ง ขณะที่เป็นครูสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งและจับได้ว่า นักบวชรูปดังกล่าวมีสัมพันธ์กับหญิงสาวชาวจังหวัดอุบลราชธานีอีกคน ซึ่งตนรู้สึกผิดและเห็นว่าพฤติกรรมของนักบวชรูปนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นนักบวชให้คนกราบไหว้ จึงได้แจ้งเรื่องพร้อมหลักฐานส่งหลักฐานไปให้สัตบุรุษอีกท่าน เพื่อปริ้นถ่ายรูปส่งเป็นภาพให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบตัดสิน 

พอวันนี้ผลการตัดสินกลับไม่โปร่งใส ทำผิดกฏหลัก ยังให้เป็นนักบวชต่อ ไม่เปิดข้อมูลหลอกให้พวกนับถือคาทอลิกกราบไหว้ ทั้งที่ต้องได้รับโทษแต่กลับเอื้อประโยชน์ต่อกัน มันไม่ยุติธรรมต่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนางสาวฝน (นามสมมติ) อายุ 40 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่าย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ตนเองได้ทำงานเป็นครูในโรงเรียนที่มีบาทหลวง ชื่อเสก (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เป็นผู้จัดการโรงเรียนในขณะนั้น 

บาทหลวงเสกได้เข้ามาพูดแทะโลม เชิงชู้สาวกับตนพร้อมทั้งบอกจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของหน้าที่การงาน ซึ่งในตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ ตั้งใจจะสานสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับบาทหลวงเสก แต่สถานการณ์หลายอย่าง ทำให้เกิดความผิดพลาดจนต้องปล่อยเลยตามเลย

ต่อมาประมาณ ปลายปี 2565 ได้มีหญิงสาวชาวจังหวัดอุบลราชธานี อ้างตัวเป็นภรรยาของบาทหลวงเสก เข้ามานัดตนออกไปเครียร์ปัญหาสามเส้า โดยหญิงที่อ้างตัวเป็นภรรยา ขอให้ตนเลิกลากับบาทหลวงเสก เพราะทางบ้านของฝ่ายชายไม่เห็นด้วยที่บาทหลวงจะมีตนเป็นภรรยาอีกคน ขณะนั้นบาทหลวงเสกได้บอกให้ตนรับปากไปก่อน เพื่อยุติความวุ่นวายแล้วก็แยกย้ายโดยสงบ

หลังจากที่เกิดปัญหาทางสำนักมิซังอุบลราชธานี ต้นสังกัดของบาทหลวงเสกได้มีคำสั่งย้ายบาทหลวงเสก กลับมาเป็นผู้จัดการโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 เม.ย. และให้เริ่มงานวันที่ 1 พ.ค. 66 แต่จนถึงปัจจุบันบาทหลวงเสกยังไม่เข้าทำงานที่โรงเรียน โดยแหล่งข่าวภายในมิชซัง แจ้งว่าบาทหลวงเสกขอลาไปเรียนต่อที่เมืองนอก

ตนเองมองว่าพฤติกรรมบาทหลวงเสกไม่เหมาะสมกับการที่จะเป็นนักบวชให้คนกราบไหว้ต่อไป จึงได้ส่งเรื่องพร้อมหลักฐานให้กับพระสังฆมณฑลอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 และมีการประชุมเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยผลการประชุมมีมติว่า บาทหลวงเสกไม่มีความผิดใดๆ และให้ยุติเรื่องร้องเรียนไว้เพียงเท่านั้น

เมื่อตนเองทราบผลการประชุมคิดว่าไม่มีความเป็นธรรมขัดต่อวินัย จึงได้ตัดสินเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นส่งให้เพจดัง และผู้สื่อข่าวให้ช่วยตามเรื่องข้อเท็จจริงว่าพฤติกรรมดังกล่าวทำไมไม่ผิดวินัยข้อบัญญัติของคาทอลิก เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นการเสื่อมเสียต่อศาสนาศริสต์

นางสาวฝน ยังกล่าวอีกว่าการที่มีสัมพันธ์กับนักบวชตนทราบว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขข้ออ้างต่างๆ ทำให้ตนต้องทำตามที่บาทหลวงบอกจนพลาดมีความสัมพันธ์แบบไม่ยินยอม แต่ก็ต้องปล่อยให้เลยตามเลยไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ จนมาพบว่าบาทหลวงเสกมีภรรยาอีกคน

ซึ่งแปลว่าพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะเป็นจากนิสัยและอาจจะมีผู้หญิงคนอื่นที่ถูกบังคับด้วยหน้าที่การงานแบบเดียวกันตน จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวและเรียกร้องให้บาทหลวงเสก พ้นจากการการเป็นนักบวชเพื่อไม้ให้ศาสนาเสื่อมเสียอีกต่อไป

ส่วนทางด้านบาทหลวงเสก ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ สอบถามไปยังสำนักงานมิสซังอุบลราชธานี ก็ได้คำตอบว่า บาทหลวงเสกไม่ได้พักที่มิสซัง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าไปพักที่ใด