ส่งฝากขังสมุน 'สมีคม' อมเงินวัดป่าธรรมคีรี 280 ล้าน ไล่สอบเส้นทางเงิน

ส่งฝากขังสมุน 'สมีคม' อมเงินวัดป่าธรรมคีรี 280 ล้าน ไล่สอบเส้นทางเงิน

ตร.กองปราบ ส่งฝากขังลูกสมุน สมีคม หรือ อดีตพระอาจารย์คม ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี 280 ล้าน หลังสารภาพทำตามคำสั่ง เพราะเป็นผู้จัดหาปัจจัยมาพัฒนาวัด ทำให้พระลูกวัดทุกรูปเกรงใจ พร้อมเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม

ความคืบหน้าคดี อดีตพระอาจารย์คม อภิวโร อายุ 39 ปี หรือ สมีคม ร่วมกับพวก ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี กว่า 280 ล้านบาท ขณะนี้จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ยังพบผู้กระทำผิดเพียงแค่ 9 ราย ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการอีก หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีเพิ่มก็จะต้องถูกดำเนินคดีหมดไม่มีข้อยกเว้น 

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หรือ กองปราบ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เบิกตัว 6 ราย

  • นายบุญส่ง หรือ พระบุญส่ง ผ่านภูวงษ์ อายุ 34 ปี
  • นายบัณฑิต หรือ พระบัณฑิต ย่อยชา อายุ 42 ปี
  • นายณัฐพัช หรือ พระณัฐพัช ตั้งใจสนอง อายุ 36 ปี
  • นายบุญเหลือ หรือ พระบุญเหลือ โพธิ์ทอง อายุ 36 ปี
  • นายธนกฤต หรือพระธนกฤต ยศสุรินทร์ อายุ 34 ปี
  • นายบุญศักดิ์ ภัทรโกศล อายุ 45 ปี คนขับรถวัดป่าธรรมคีรี

6 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันยักยอกเงิน วัดป่าธรรมคีรี 280 ล้านบาท ออกจากห้องคุมขัง เพื่อนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมเตรียมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายค่อนข้างมากเกรงว่าจะหลบหนี

 

ขณะที่ในส่วนของทรัพย์สินวัดยังอยู่ในขั้นตอนของการขยายผลตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ทรัพย์ที่ถูกยักยอกออกไปนั้น มีจำนวนเท่าใด รวมถึงยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบที่ไปที่มาของทรัพย์สินต่างๆ ที่ตรวจยึดคืนกลับมาได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวมีจำนวนค่อนข้างมาก

ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ที่จับมาครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้นั้น ทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกัน ยอมรับว่า ต้องทำตามคำสั่งของ อดีตพระอาจารย์คม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดของวัด เพราะเป็นผู้คอยจัดหาปัจจัยต่างๆมาสร้าง หรือ พัฒนาวัด ทำให้พระลูกวัดทุกรูปเกรงใจยอมทำตาม 

 

โดยจากคำให้การทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งหากเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบสวนแล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง