สธ. เผย 17 จังหวัดภาคเหนือ เฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 สูงถึงสัปดาห์หน้า

สธ. เผย 17 จังหวัดภาคเหนือ เฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 สูงถึงสัปดาห์หน้า

สธ. เผย 17 จังหวัด ภาคเหนือ PM 2.5 ยังสูงถึงสัปดาห์หน้า สั่งเฝ้าระวังเข้มประกาศธงแดง 4 เวลา ผู้ป่วยจากมลพิษเพิ่มขึ้น แต่อาการเล็กน้อย

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของประเทศไทย ว่า วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา พบ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ สูงสุดที่ภาคเหนือ 48-234 มคก./ลบ.ม.

จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ

  1. เชียงราย 279 จุด เชียงใหม่ 215 จุด
  2. น่าน 115 จุด ส่วนภาคกลางและตะวันตก 42-93 มคก./ลบ.ม.
  3. กทม.และปริมณฑล 39-69 มคก./ลบ.ม.

พื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 มากกว่า 51 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ติดต่อกันเกิน 3 วัน 8 จังหวัด ได้แก่

  1. น่าน (อ.เมือง อ.เฉลิมพระเกียรติ)
  2. เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.ฮอด อ.เชียงดาว อ.แม่แจ่ม)
  3. เชียงราย (อ.เมือง อ.แม่สาย อ.เชียงของ)
  4. แพร่ (อ.เมือง)
  5. พะเยา (อ.เมือง)
  6. ลำพูน (อ.เมือง อ.ลี้)
  7. ลำปาง (อ.เมือง อ.แม่เมาะ)
  8. แม่ฮ่องสอน (อ.เมือง อ.แม่สะเรียง อ.ปาย)

คาดการณ์ว่าช่วง 7 วันข้างหน้า (18-24 เม.ย.) กทม.และปริมณฑล คุณภาพอากาศ มีแนวโน้มปานกลางถึงดี เนื่องจาก สภาพอากาศ เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศสูงขึ้น ประกอบกับกำลังลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ส่วน 17 จังหวัดภาคเหนือ ยังต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เชียงรายและน่าน แต่มีแนวโน้มดีขึ้นหลังวันที่ 19 เมษายน 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากความเร็วลมที่ระดับชั้นบนมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้การระบายฝุ่นของพื้นที่ดีขึ้น ประกอบกับช่วงวันที่ 21-24 เมษายน อาจมีฝนตกได้ในบางพื้นที่ของภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง

หากค่าฝุ่น PM 2.5 มากกว่า 150 มคก./ลบ.ม. พื้นที่จะปฏิบัติตามแนวทางธงเตือนภัยสีแดง โดยผู้ใหญ่บ้านจะแจ้งเตือน 4 ครั้ง/วัน เวลา 07.00 น. 12.00 น. 15.00 น. และ 18.00 น. ให้ รพ.สต. รายงานสถานการณ์ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพประชาชน รักษาเบื้องต้น ให้บริการคลินิกมลพิษออนไลน์ ประสานให้งดกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก กิจกรรมวิ่ง และประสานศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานศึกษา งดกิจกรรมกลางแจ้งหรืองดการเรียนการสอนหากจำเป็น ส่วนทีม 3 หมอ อสม. ให้ลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเสี่ยงและให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว โดยส่วนกลางได้สนับสนุนเวชภัณฑ์ไปยังเขตสุขภาพที่ 1 ทั้งหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 แล้วจำนวน 122,000 ชิ้น และเขตสุขภาพที่ 2 จำนวน 50,000 ชิ้น

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า การเฝ้าระวังโรคจากมลพิษทางอากาศ พบว่า มีผู้ป่วยสะสม 2,472,492 ราย สัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 184,465 ราย เป็นกลุ่มโรคทางเดินหายใจมากสุด รองลงมา กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ

แนวโน้มพบกลุ่มอาการระบบตา และหูคอจมูก เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงพบกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปมีอาการเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นอาการเล็กน้อย 3 อันดับแรก คือ

  1. แสบจมูก 34.23%
  2. แสบคอ 24.32%
  3. แสบตา 20.72%

สำหรับการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการสัมผัสฝุ่น ช่วงระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2566 พบว่า

  • ภาพรวมปฏิบัติตัวได้ดีเพิ่มขึ้นเป็น 97%
  • การสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 100%
  • ไม่เผาขยะ กระดาษ จุดธูป เพิ่มขึ้นเป็น 94.6%
  • ปิดประตูหน้าต่างเพิ่มขึ้นเป็น 99.1%
  • งดออกกำลังกายกลางแจ้งเพิ่มขึ้นเป็น 93.7%
  • การลดระยะเวลาออกนอกบ้านลดลงเหลือ 87.4%
  • การตรวจเช็กคุณภาพอากาศลดลงเหลือ 76.6%

ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ยังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่ระยะปกติ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เฝ้าระวังสถานการณ์และแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อสุขภาพผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมดูแลกลุ่มเสี่ยง 5 โรค ส่งเสริมสนับสนุนการจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในพื้นที่เสี่ยง เปิดคลินิกมลพิษและคลินิกมลพิษออนไลน์ และสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
แก่กลุ่มเสี่ยงต่างๆ