'หลวงปู่สรวง' ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย

ฮอตโซเชียล 'หลวงปู่สรวง' ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย ในข่าวดังที่ชาวบ้านต่างพูดไปต่าง ๆ นานา รูปหล่อหลวงปู่สรวง ถูกทำลาย

กลายเป็นประเด็นฮอตโซเชียล กรณี หลวงปู่สรวง ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย ในข่าวดังที่ชาวบ้านต่างพูดไปต่าง ๆ รูปหล่อหลวงปู่สรวง ถูกทำลาย นานานั้น

การที่พบเจอพระ หลวงปู่สรวง ที่หายไป และต่อมาชาวบ้านพบในบ่อน้ำห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 4 กิโลเมตร ล่าสุดหลังชาวบ้านนำขึ้นมา และก็นำกลับมาประกอบพิธีบวงสรวง และรวบรวมชิ้นส่วนที่มีทั้งหมด ทำพิธีฝังดิน ไว้ริมกำแพงวัดพลับพลาชลาราม หลังอาศรมหลวงปู่สรวง บ้านขวาว ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ตามความเชื่อ ที่ต่างมุมมอง และถกกันถึงสาเหตุกันไปต่าง ๆ นานา

เนื่องจากเหตุที่รูปหลวงปู่สรวง ถูกลักขโมยไปมานานและล่าสุดก็พบถูกทิ้งในบ่อร้าง จนได้นำกลับมา

\'หลวงปู่สรวง\' ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย

ชาวบ้านส่วนหนึ่งเชื่อว่า เหตุที่พระหายไป อาจเพราะคนสติไม่ดีมาขโมยไป ในขณะที่บางคนบอกว่าเกิดจาก มิจฉาชีพหรือโจรงมาลักไป เนื่องจากคิดว่าข้างในองค์พระเป็นของมีค่า คนร้ายจึงมาลักแล้วทุบทำลายพบว่าข้างในไม่มีของมีค่า จึงนำไปทิ้งไว้ในบ่อน้ำร้างที่ห่างออกไป 4 กม.จนมีคนไปพบดังกล่าว

ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่ง เชื่อว่า เหตุที่โดนขโมยไปทำลายแล้วทิ้งไว้ในบ่อ เกิดจากความเชื่อว่า เพราะเจ้ามือหวยไม่พอใจ ที่มีคนมากราบไหว้แล้วได้เลขเด็ดไปซื้อหวยถูกบ่อยจนเจ้ามือขาดทุน จนต้องส่งคนมาลักไปทำลายทิ้งมากกว่า

ในขณะที่ ชาวบ้านส่วนหนึ่งมองว่า ทุกอย่าทำด้วยความศรัทธา และหลังจากนำองค์พระมาทั้งที่วัดแล้วเกิดความสงบสุขร่มเย็น ไม่สายใจก็มากราบไหว้ ขอพร ซึ่งก็ประสบความสำเร็จตามต้องการ และเมื่อประสบความทุกข์ และเกิดเคราะห์เข็ญ ก็มาเดินลอดโต๊ะตั้งองค์พระแล้วก็ผ่อนคลาย จนมีการนำเครื่องเซ่นไหว้ และรูปปั้น ช้าง ม้า มาแก้บนด้วยความศรัทธา

ซึ่งหลังประกอบพิธีแล้ว ก็มีความตั้งใจที่จะหาทาง ให้มีการบริจาคเงิน หรือขอความร่วมมือจากผู้ใจบุญ ช่วยนำรูปปั้นหลวงปู่สรวงองค์ใหม่มาตั้งทดแทนในสถานที่เดิม เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นที่พึ่งทางใจต่อไปอีก

ในขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า เหตุพบพระในบ่อ เชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์และปาฎิหาริย์ ที่ทำให้คนได้กลิ่น เพื่อต้องการให้คนที่ตามหา ไปพบแล้วนำกลับมาที่เดิม ก็ด้วยอิทธิฤทธิ์ ขององค์รูปปั้นหลวงปู่สรวง

หลวงตาเสมือน ฉามะวโร วัดพลับพลาชลาราม บ.เขวา ม.9 ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ พระครูในวัดบอกว่า อยากให้ชาวบ้านมีสติ ให้เชื่อในบนความตั้งมั่น อย่าเชื่อในสิ่งที่นำไปสู่ความงมงาย ขาดสติ

การที่ชาวบ้านเชื่อมั่น และหวังอยากจะหาคนช่วยหาหลวงปู่สรวงองค์ใหม่มาตั้งในอาศรมแทนองค์เดิม เพื่อหวังจะใช้เป็นยึดเหนี่ยวจิตใจตามเดิม เพราะเวลาทุกข์ร้อนไม่สบายใจได้มาปราบไหว้ ได้เดินลอดใต้ฐานองค์พระในอาศรมแล้วรู้สึกผ่อนคลายเป็นที่พึ่งทางใจ ก็เป็นเรื่องดี หากเป็นความเชื่อในทางที่ถูกที่ควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องไม่งมงาย ด้วยความเชื่อในทางที่ผิด จนขาดสติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมควร

ลำดับเหตุการณ์หลวงปู่สรวงหายไป

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านได้กลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากบ่อน้ำร้างริมถนนเข้าบ้านดอนแคน หมู่ 2 ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ และเมื่อเข้าไปชะโงกดูก็พบว่าที่ก้นบ่อพบ ลักษณะคล้ายพระสงฆ์สวมจีวร จึงแจ้งตำรวจ สงสัยว่า เป็นคนถูกฆ่ามาทิ้งอยู่ก้นบ่อ

\'หลวงปู่สรวง\' ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย

เมื่อได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ก็พบชาวบ้านจำนวนมากพากันรออยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับหน่วยกู้ภัยสุวรรณภูมิไปถึง จึงนำไฟฉายเข้าไปส่องดูใกล้ๆปากบ่อ ก็พบว่าที่ก้นบ่อลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งไม่มีน้ำขังอยู่ มีภาพหล่อซึ่งเป็นภาพหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์หลวงปู่สรวง อดีตเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ ที่ถูกขโมยไปจากวัดพลับพลาชลาธาร บ้านขวาว หมู่ 9 ต.ทุ่งกุลา เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา แต่ส่วนศีรษะหายไป ส่วนกลิ่นเน่าเหม็นที่โชยออกมานั้นเป็นกลิ่นจากปลาและซากสัตว์น้ำที่ตายเพราะน้ำในบ่อแห้งเป็นเหตุ

โดยก่อนหน้านี้รูปหล่อหลวงปู่สรวง อดีตเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน ซึ่งชาวบ้านให้ความเคารพกราบไหว้และขอพรมาโดยตลอด ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัดพลับพลาชลธาร บ้านขวาว เป็นรูปหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์เท่าตัวจริงของหลวงปู่สรวงองค์นี้ มีนายทหารยศนายพลนำมาถวายให้กับทางวัด เมื่อปี 2560 จากนั้นก็ได้ตั้งประดิษฐานเอาไว้ภายในวัดทางด้านทิศเหนือ จากนั้นชาวบ้านก็มาสักการะขอพรมิได้ขาด เพราะมักจะได้โชคลาภและความร่มเย็นเป็นสุขดังที่ขอพรเอาไว้ และชาวบ้านที่มาจุดธูปก็มักจะมาขอหวยด้วย โดยมีชาวบ้านก็ถูกหวยบ่อยๆ จนกระทั่งมีคนมาแอบขโมยไปและพึ่งพบว่าถูกนำมาทิ้งในบ่อน้ำร้างดังกล่าว หลังถูกขโมยไปเกือบ 20 วัน
 

ประวัติ หลวงปู่สรวง

หลวงปู่สรวง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ที่กระท่อมบ้านรุน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ มีอาการป่วยและฉันอาหารไม่ได้เป็นเวลาหลายวันและได้ย้ายมาพักที่กระท่อมข้างวัดป่าบ้านจะบกเวลาประมาณ 14.00 น. 

\'หลวงปู่สรวง\' ปมความเชื่อ ของมีค่าในองค์พระ เลขเด็ดและเจ้ามือหวย

หลวงปู่สรวงเป็นคนพูดน้อย และไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครทราบประวัติและอายุที่แท้จริงของท่านได้ มีเพียงค าบอกเล่าปากต่อปากที่ยังคงเป็นปริศนา บ้างก็ว่าท่านเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ บ้างก็ว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา มาจำพรรษาที่ประเทศไทยหลายแห่ง จึงไม่มีใครที่จะทราบเรื่องราวประวัติที่แน่นอน ชาวบ้านในสมัยนั้นเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา)

หลวงปู่สรวงเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ตลอดระยะเวลา หลวงปู่สรวงจะจำวัด ณ สำนักสงฆ์แห่งหมู่บ้านไพรบึงน้อย (วัดไพรพัฒนาในปัจจุบัน) และอยู่ตามกระท่อมนาเล็กๆ มีกระดานไม้ปูแค่พอนอนได้ทุกแห่งที่หลวงปู่จำวัดจะมีเสาไม้สูงปักอยู่ มีเชือกขาวขึงระหว่างกระท่อม เสาไม้หรือต้นไม้ข้างเคียงมีว่าวขนาดใหญ่ที่บุด้วยจีวรหรือกระดาษแขวนไว้เป็นสัญลักษณ์ ที่ขาดไม่ได้คือจะต้องให้ลูกศิษย์ก่อกองไฟไว้เสมอ บางครั้งลูกศิษย์เอาของถวายท่านก็จะโยนเข้ากองไฟ ฉะนั้น ถ้าเห็นว่ากระท่อมใดมีสิ่งของดังกล่าว ก็หมายถึงว่าเป็นที่ที่หลวงปู่เคยจำวัดหรือเคยอยู่มาก่อน

cr. srisaket.nfe.go.th/