เตรียมลงดาบหน่วยงานรัฐ ปมข้อมูลคนไทย 55 ล้านบัญชีรั่วไหล

เตรียมลงดาบหน่วยงานรัฐ ปมข้อมูลคนไทย 55 ล้านบัญชีรั่วไหล

ปมแฮกเกอร์ 9near ล่าสุด คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกฎหมายคุ้มครองฯ เตรียมลงดาบหน่วยงานรัฐ ปมข้อมูลคนไทย 55 ล้านบัญชีรั่วไหล

ประเด็นข้อมูลรั่วไหลหลังจากที่ผู้ใช้งานบัญชี 9near ที่ได้โพสต์ขายข้อมูลอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums พร้อมได้มีการอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย

กระทั่งนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดยได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สําหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศเพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org เนื่องจากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นและระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทําให้ประชาชนตื่นตระหนก 

เรื่องนี้ล่าสุด ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดีอีเอส พลเอก ดร.ภุชพงศ์ พงษ์ศิริ ประธานคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ ๒ (ที่พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนทางเทคโนโลยีและอื่นๆ) กล่าวถึง กรณีข้อมูลหน่วยงานรัฐ ภาครัฐรั่วไหลในขณะนี้ว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญข้อมูลส่วนบุคคลด่วนในวันนี้ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลในหน่วยงานภาครัฐตามที่เป็นข่าว

พลเอก ดร.ภุชพงศ์ กล่าวว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ 2 มีมติร่วมกันว่า

1.ให้ดำเนินการสอบสวนหน่วยงานรัฐที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลเพื่อตรวจหาสาเหตุและดำเนินการแก้ไขโดยทันที 

2.ให้มีคำสั่งเรียกหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการสื่อสาร และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ มาชี้แจงประเด็นเรื่องข้อมูลรั่วไหลจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงจะขอความร่วมมือให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจัดทำระบบกรองข้อมูล (Filtering system) เพื่อป้องกับปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบผ่านระบบ SMS 

3.ให้ สคส. เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล โดยให้ดำเนินการปิดบังหมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกนำมาเผยแพร่ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

4.เตรียมออกคำสั่งตามมาตรา 72 (2) ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบหน่วยงานภาครัฐว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลของประชาชนที่ได้มาตรฐานหรือไม่ โดยเฉพาะจะเริ่มตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐที่มีฐานข้อมูลประชาชนมากกว่า 1 ล้าน ข้อมูลขึ้นไป และให้หน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลรั่วไหลมาชี้แจงว่าเหตุใดจึงไม่แจ้งเหตุข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ภายใน 72 ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ หากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ 2 ยังพิจารณาและมีความเห็นเพิ่มเติมว่า หากหน่วยงานที่ข้อมูลรั่วไหลดังกล่าวข้างต้นมีความผิดจริง คณะกรรมการฯ อาจพิจารณาโทษปรับทางการปกครอง ตามมาตรา 83 ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการที่แฮกเกอร์อ้างนั้น มีทั้งตัวอย่างไฟล์ซึ่งมีชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้างด้วย