สธ. สั่ง รพ.ภาคเหนือ เฝ้าระวัง PM 2.5 พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุ

สธ. สั่ง รพ.ภาคเหนือ เฝ้าระวัง PM 2.5 พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งโรงพยาบาลภาคเหนือ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หาก 2 วันสถานการณ์ไม่ดีขึ้น เตรียมประสานผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ จ.ลำปาง ว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ ที่ จ.ลำปาง แม้จะอยู่ในระดับสูง แต่ยังไม่สูงมากจนผิดปกติ เนื่องจากในช่วงเวลากลางวัน สถานการณ์จะดีขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ แต่ที่ จ.เชียงราย ต้องให้ทางผู้อำนวยการประเมินอีกที และยังคงต้องเฝ้าระวัง เพราะทางภาคเหนือ ค่าฝุ่นยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 

นพ.โอภาส กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 นั้น กระทรวงสาธารณสุขเพียง เข้ามาดูที่ปลายเหตุ ซึ่งสถานการณ์ผู้ป่วย จากฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือขณะนี้ มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น โดจะต้องดูผลกระทบ 2 - 3 วัน ทั้งนี้ได้แจ้งให้โรงพยาบาลในพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น โรคปอดเรื้อรั้ง โรคหัวใจ และผู้สูงอายุ

เบื้องต้น ได้สั่งการให้โรงพยาบาล เตรียมยาและเวชภัณฑ์ให้พร้อม เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการใช้เครื่องฟอกอากาศ ภายในโรงพยาบาลไปก่อน อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องฟอกอากาศนั้น ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลแต่ละแห่งตามขนาน ไม่ได้อยู่ในแผนเดิม ของกระทรวงสาธารณสุข 

เมื่อถามถึงการประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน ในการลดฝุ่น นพ.โอภาส กล่าวว่า จังหวัดในภาคเหนือหลายจังหวัดรายงานว่า ส่วนหนึ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้อยู่ที่กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ 

เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ฝุ่นไม่ดีขึ้นใน 1 - 2 วัน นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องประสานทางผู้ว่าฯ ในการจัดทำแผนเผชิญเหตุ เช่น การเปิดห้องคลีนรูม ที่ใช้รองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น ขณะเดียวกันในระยะสั้น ได้สั่งการให้โรงพยาบาล เตรียมยาเวชภัณฑ์ให้พร้อม สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 

นพ.โอภาส ยังแนะนำประชาชนว่า หากในพื้นที่มีฝุ่น PM2.5 สูง ควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง ลดทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และหากมีเครื่องฟอกอากาศ ก็ควรนำมาใช้

ด้าน นพ.ภุชงค์ ชื่นชม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ระบุว่า วันนี้จุดฮอตสปอร์ตจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการเผาทั้งในเมียนมา และ สปป.ลาว ทำให้พื้นที่อำเภอแม่สาย ได้รับผลกระทบมาก ขณะนี้ ค่า AQI อยู่ที่ 300 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง มีอาการ กำเริบ แต่ก็ไม่พบจำนวนมาก ทั้งคนป่วยปอดอุดกั้น หอบหืด ภูมิแพ้   

เบื้องต้นวันนี้ ได้ให้ อสม. เยี่ยมบ้านประชาชน และแจกหน้ากากอนามัย พร้อมให้ความรู้ประชาชน งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝฝุ่น ยอมรับว่า ช่วยลดฝุ่นได้ชั่วคราว แต่หากจะให้ลดฝุ่นได้จริง ต้องให้มีฝนตกลงมา