ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หวั่นเกิดอันตราย

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หวั่นเกิดอันตราย

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หลังหายจากโรงไฟฟ้า หวั่นเกิดอันตรายกับผู้ครอบครอง และสิ่งแวดล้อม วอนส่งคืน สูญหายปลายกุมภาพันธ์ เพิ่งแจ้ง ปภ. ก่อนตั้งทีมค้นหา

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ความคืบหน้าการค้นหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี หลายฝ่ายตั้งข้อกังวลอาจถูกนำไปขายเป็นของเก่า ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าถ้าผ่าท่อรังสีทำให้เนื้อเน่าเปื่อยภายใน 3 วัน กรณีมีระดับรังสีเข้มข้นจนเป็นที่หวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอย่างยิ่ง

ล่าสุด นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการนำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส) นายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ 2 ถนน ทางหลวง 3079 ตำบล ท่าตูม อำเภอ ศรีมหาโพธิ จังหวัด ปราจีนบุรี 25140 ประกอบธุรกิจประเภท ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย

โดย นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการ/บริษัทฯ เตรียมรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการยกระดับภัย จากภัยระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี

โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี ดังกล่าวและให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรีจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หวั่นเกิดอันตราย
 

ดูแลการจ้างงานกรณีหยุดการทำงาน ตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงาน ในระหว่างตรวจหาและแก้ไข ปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาล เตรียมบำบัดรักษาผู้ป่วย ที่อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในอำเภอศรีมหาโพธิ ตรวจค้นหาวัตถุดังกล่าว ในสถานประกอบการร้านค้าของเก่า และประเภทอื่น ๆในพื้นที่

หลังการประชุม นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี, นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี, นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ, นายกิตติพันธ์ ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดยมีหน่วยงานของอุตสาหกรรม, กระทรวงแรงงาน, ทหาร, ปภ., สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน, แพทย์และสาธารณสุข, สำนักงานจังหวัด, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังในครั้งนี้ด้วย

จากการสอบถามนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบจากโรงงานผลิตไฟฟ้า np ว่ามีอุปกรณ์เครื่องวัด ซีเซียม 137 หายไปจากโรงงาน หลังจากนั้นได้แจ้ง ไปที่สำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมในการค้นหาโดยขณะนี้ใช้เวลาค้นหาได้ประมาณ 3 วัน ยังไม่พบคาดว่าน่าจะมีผู้นำวัสดุชิ้นนี้หรืออุปกรณ์เครื่องวัดออกไปนอกโรงงาน

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี แถลงตามหาท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หวั่นเกิดอันตราย

นายรณรงค์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนหากพบเห็น หรือผู้ที่ครอบครองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือประชาชนที่อยู่โดยรอบบริเวณข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นร้านของเก่า โรงงาน ถ้าเห็นอุปกรณ์ ผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ อย่าจับหรือแตะต้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้ไปเก็บกู้นำกลับมาในสถาพที่ปลอดภัย

ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า สารกัมมันตรังสีซีเซียม 137 นั้นถ้าถอดหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจะมีรัศมีการแผ่รังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร ถ้ายังไม่มีการชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มอายุของตัวสารจะอยู่ได้ 300 ปี เมื่อได้รับซีเซียม 137 เข้าไปในร่างกาย จะกระจายไปทั่วร่างกาย ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อและส่วนน้อยอยู่ในตับและไขกระดูก แต่จะถูกขับออกโดยกระบวนการทางชีวภาพ ทางเหงื่อและ ปัสสาวะ

หากใครพบเห็นวัตถุดังกล่าวโปรดแจ้งกลับมาที่คุณอารีย์ จักษ์ตรีมงคล ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 085-8350190 (ตลอด 24 ชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท

สำหรับ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ให้บริการด้าน การจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137(Cesium –137, Cs -137) จำนวน 1 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัมใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี 2538

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 23.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า วัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด

จากข้อมูลทราบว่าวัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท ประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทฯ ได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนว่ามีโลหะตกลงพื้น และไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตรายซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า สูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร

วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้ว 28 ปี

หลังจากพบว่าสูญหายบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อค้นหาวัสดุ กัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย ในพื้นที่โรงงานทั้งหมด จาการตรวจสอบไม่พบวัสดกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายภายในโรงงานแล้ว

เจ้าหน้าที่จากอำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่ อำเภอศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น

ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่ มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กโดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม หากมีการถอดหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มออก จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร หากใครสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัส