"ฝุ่น PM 2.5" ไทยยังหนา กาญจนบุรีจังหวัดแชมป์พบจุดความร้อนมากที่สุด
!["ฝุ่น PM 2.5" ไทยยังหนา กาญจนบุรีจังหวัดแชมป์พบจุดความร้อนมากที่สุด](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2023/03/iGloM5lEg6G4TXl7Hg1K.webp?x-image-process=style/LG)
"ฝุ่น PM 2.5" ไทยยังหนา พบเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ส่วน "จุดความร้อน" ยังทรงตัว กาญจนบุรีแชมป์จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุด
อัปเดตสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 วันนี้ 10 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 9 มีนาคม 2566 ไทยพบ "จุดความร้อน" จำนวน 1,533 จุด
ส่วนเมียนมายังนำโด่ง 5,743 จุด , สปป.ลาว 2,412 จุด , กัมพูชา 1,622 จุด , เวียดนาม 396 จุด และมาเลเซีย 33 จุด
สำหรับ จุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 752 จุด , พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 368 จุด , พื้นที่เกษตร 177 จุด , พื้นที่เขต สปก. 132 จุด , พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 95 จุด , และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด และในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ "กาญจนบุรี" 289 จุด
ส่วน ค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น" เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับสีส้ม และสีแดง แสดงให้เห็นว่า "เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด" และเริ่มส่งผลต่อสุขภาพ อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง เลย แพร่ เป็นต้น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ช่วงเวลาที่หนักสุดจะเป็นช่วงเช้า-สายของวันนี้(10 มีนาคม 2566) เตือนประชาชนควรสวมหน้ากากฯตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ระดับปานกลางจนถึงเริ่มมีผลต่อสุขภาพ
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน คือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือ ติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น"