พุทธศาสนิกชน เข้าวัดเวียนเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา 'วันมาฆบูชา'

พุทธศาสนิกชนในจังหวัดสงขลา เข้าวัดเวียนเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันมาฆบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร

เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (6 มี.ค. 66) ที่ วัดไทรงาม เขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.เมืองสงขลา เป็นประธานในพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาของพุทธศาสนา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยมีพุทธศาสนิกชนในเมืองสงขลา เข้าวัดร่วมในพิธีเวียนเทียนในคืนวันนี้เป็นจำนวนมาก

สำหรับพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชาในวันนี้ มีการแสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชาและมีพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ โดยมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมเวียนเทียนเป็นจำนวนมาก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาของพุทธศาสนา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร

ชาวระยอง เวียนเทียน ถวายเป็นพุทธบูชา

ขณะที่ จ.ระยอง ณ อุโบสถวัดเนินพระ อ.เมือง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดระยอง ร่วมเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2566 โดยมีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง นำพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และแสดงธรรมเทศนา โดยขอให้พุทธศาสนิกชนทุกคน หมั่นทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส และใช้ชีวิตอย่างมีสติ พร้อมกับนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ก่อนที่พระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง จะนำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดระยอง เวียนเทียนรอบอุโบสถ 3 รอบ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสืบไปอีกด้วย
 

คลื่นพุทธศาสนิกชนกว่า 10,000 คนเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ยุคทวารวดียาวจรดเที่

ที่หน้าโบราณสถานรอยพระพระพุทธบาทคู่ยุคทวารวดี วัดสระมรกต ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี พระพิศาลศึกษากร (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายสุนทร วิลาวัลย์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) พร้อมพุทธศาสนิกชน มากกว่า 10,000 คน ร่วมเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชารอบรอยพระพุทธบาทคู่ยุคทวาวดี อายุมากกว่า1.500 ปี ขนาดความกว้าง-ยาว3.2เมตร ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเทศกาลมาฆะปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 37 ประจำปี 2566 จัดระหว่างวันที่ 27 ก.พ.- 7 มี.ค.66 ในวันมาฆะบูชา กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก

โดยก่อนหน้ามีการแสดงพระธรรมเทศนา หลักโอวาทปาติโมกข์ โดยพระพิศาลศึกษากร (ดร.)เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวสรุปถึง ให้พุทธศาสนิกชน ละความชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ด้วยการหมั่นให้ทาน รักษาศีล สวดมนต์ภาวนา –บริหารจิตและเจริญปัญญา อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสแสดง โอวาทปาติโมกข์ ครั้งแรกแก่ พระอรหันต์ จำนวน 1250 รูป ที่ล้วนเป็นเอหิภิกขุ ที่วัดเวฬุวนาราม ซี่งมาประชุมโดยมิได้นัดหมาย

ซึ่งการเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ ที่โบราณสถาน วัดสระมรกต ในเทศกาลมาฆะปูรมีศรีปราจีน นี้ จัดเป็นประเพณีประจำปีทางพระพุทธศาสนา ยิ่งใหญ่ที่สุดในวันมาฆะบูชาชองภาคตะวันออกและจัดยาวต่อเนื่องจรดถึงเที่ยงคืนให้พุทธศาสนิกชนได้มาเวียนเทียนได้โดยตลอด

หลังเวียนเทียรเสร็จ มีตลาดย้อนยุค “ตลาดร่มเย็น” ให้บริการอาหารเครื่องดื่มพื้นบ้านของชาวไทยพวน แก่ผู้มาเวียนเทียน – ท่องเที่ยวอีกด้วย อันเป็นการส่งเสริม – ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และ กระตุ้นเศรษฐกิจจากพิษโควิด -19 ให้กระเตื้องขึ้นมาทันตาเห็น