'วันมาฆบูชา' ดอกดาวเรืองราคาพุ่ง เกษตรกรเร่งเก็บขายรายได้งาม

'วันมาฆบูชา' ดอกดาวเรืองราคาพุ่ง เกษตรกรเร่งเก็บขายรายได้งาม

เกษตรกร เร่งตัดดอกดาวเรืองส่งขาย เนื่องในวันมาฆบูชา หลังได้ราคาดีสูงสุดถึงดอกละ 3 บาท สร้างรายได้เกือบ 2 หมื่นบาทต่อวัน

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 ที่แปลงปลูกดอกดาวเรือง หมู่ที่ 6 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นไร่ของนายบุญชัย เย่าเฉื้อง อายุ 45 ปีกับ น.ส โสภาวดี หยูจีน อายุ 40 ปีสองสามีภรรยาชาวจ.ตรัง กำลังช่วยกันตัดดอกดาวเรืองส่งขายให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหลายจังหวัดภาคใต้ ที่มีสั่งจองไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อนำไปขายเนื่องใน วันมาฆบูชา ซึ่งเกษตรกรปลูกดอกดาวเรืองทั้งหมดบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่งหรือประมาณ 6,000 ต้น และเป็นแปลงปลูกดอกดาวเรืองที่ใหญ่ที่สุดในจ.ตรัง โดยมีทั้งดอกสีเหลืองและสีส้ม ซึ่งแต่ละวันสามารถตัดดอกดาวเรืองได้หลายเกรดหลายขนาด ขายตั้งแต่ราคาดอกละ 30 สตางค์ไปจนถึงดอกละ 2.50 บาท ซึ่งช่วงนี้ราคาดอกใหญ่ไซส์จัมโบ้ตกดอกละ 3 บาท ทำให้มีรายได้กว่า 20,000 ต่อบาท เนื่องจากแต่ละวันสามารถตัดดอกดาวเรืองได้ 18,000-20,000 ดอก 

โดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาสั่งซื้อถึงในสวน และสั่งจองมาทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ จนทำให้มีดอกดาวเรืองแทบไม่พอขายกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำเงินได้อย่างงดงามในช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนา และในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งรายได้ดีกว่าการปลูกยางพาราหลายเท่าตัว 
 

ด้านนายบุญชัย เย่าเฉื้อง เกษตรกรผู้ปลูกดอกดาวเรืองรายใหญ่ในจ.ตรังกล่าวว่า ราคาดอกโต ๆ จัมโบ้จะแตะที่ 1-2 บาทกว่า ส่วนตลาดค่อนข้างดีเพราะเริ่มเป็นช่วงของงานสำคัญต่าง ๆ ทั้งวันสำคัญทางพุทธศาสนา เดือนหน้าเมษาก็จะเป็นวันสงกรานต์ ยิ่งเทศกาลเพิ่มขึ้นคนก็จะใช้ดอกไม้เยอะขึ้น ราคาก็จะขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงนี้ ต่อมีดตัดได้ประมาณเกือบ 2 หมื่นดอก โดยช่วงนี้ต้องตัดดาวเรืองกันทุกวัน วันหนึ่ง ๆ มีดาวเรืองออกสู่ตลาดเกือบ 2 หมื่นดอกทุกวัน สัมภาษณ์ นายบุญชัย เย่าเฉื้อง เกษตรกรเจ้าของไร่ดอกดาวเรืองที่ใหญ่ที่สุดในจ.ตรัง